fbpx
Home
|
อาชญากรรม

กทม. แถลงปม กทม.ปลดล็อกชุดนักเรียน

Featured Image
กทม. แถลง ชี้แจงประเด็น กทม.ปลดล็อกชุดนักเรียน รร.ในสังกัด กทม. และห้าม รร. ดำเนินการที่กระทบ ต่อจิตใจ และ ร่างกายเช่นตัดผมนักเรียน

 

 

วันนี้ (30 มิ.ย.66) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร นางศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษาแถลงข่าวเรื่องชุดนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร

 

กรณี กทม.ออกประกาสด่วน ปลดล็อกชุดนักเรียน ให้ใส่ชุดอะไรก็ได้ 1 วัน/สัปดาห์ พร้อมพ่วงให้ทรงผมอิสระ เพื่อไม่กระทบเสรีภาพ ออกหนังสือถึงโรงเรียนในสังกัดจำนวน 437 แห่ง เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนกำหนดการใส่ ชุดนักเรียนและไว้ทรงผมได้อย่างอิสระ”

 

ลงนามโดย นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. รักษาการแทนปลัด กทม. โดยมีเนื้อหาระบุว่า กรุงเทพมหานครจัดทำข้อกำหนดใหม่ให้แก่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยอนุญาตให้นักเรียนสามารถแต่งกายชุดใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับจำนวน 1 วันต่อสัปดาห์ หากไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ก็สามารถใส่ชุดนักเรียนได้ตามความประสงค์ของนักเรียน โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจ ยึดหลักคำนึงถึงอัตลักษณ์ ความหลากหลาย ความเชื่อทางศาสนาและเพศวิถี

 

นายศานนท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรุงเทพมหานครมีการประกาศเรื่องสิทธิเด็กและชุดลูกเสือ ล่าสุดออกบันทึกข้อความแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมและการแต่งกายของนักเรียน อิงตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 หัวใจมีอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน-สิทธิมนุษยชน การลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และการมีส่วนร่วมของนักเรียน

 

สำหรับบันทึกข้อความแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมระบุชัดเจนให้นักเรียนไว้ทรงผมได้อย่างอิสระบนพื้นฐานสุขอนามัยที่ดี สะอาด ส่งเสริมบุคลิกภาพ และความมั่นใจ ห้ามไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจ เช่น การตัดผม หรือการทำให้อับอาย โดยโรงเรียนจะต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย

 

ส่วนแนวทางการแต่งกายของนักเรียน เป็นไปเพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง กำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุดใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ โดยให้นักเรียนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนด ทั้งนี้นักเรียนที่ต้องการใส่ชุดไปรเวท เช่น เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สามารถทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียน พิจารณาความเหมาะสมร่วมกันก่อนประกาศใช้ เราจะได้กำหนดประเภทชุดไปรเวท เพื่อให้นักเรียนมีอิสระ และบางโรงเรียนมีความแตกต่างเรื่องของศาสนา

 

การเปลี่ยนแปลงแบบตัดฉึ่บคงทำไม่ได้ เราจึงประกาศให้แต่งชุดไปรเวทอย่างน้อยหนึ่งวัน ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมเดิมมาก เพียงแต่ใส่กระบวนการการมีส่วนร่วม สิทธิและเสรีภาพของนักเรียนเข้าไป ส่วนจะทำอย่างไรให้ขยายไปเป็นสองวันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับโรงเรียน”

 

นายศานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองทำงานด้านการศึกษามาเป็น 20 โปรเจกต์ แต่โปรเจกต์นี้ เป็นโปรเจกต์ที่มีคนโทรมาขอบคุณมากที่สุด เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของยุคสมัย หากไม่หยิบขึ้นมาพูดคุยบนโต๊ะคงไม่สามารถเดินต่อได้ เป็นการออกแบบห้องเรียนแบบ Active Learning สร้างการถกเถียงอย่างมีส่วนร่วม ถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการเรียนรู้

 

นางศุภร กล่าวถึงกรอบเวลาการบังคับใช้แนวทางการแต่งกายและทรงผมตามประกาศว่า กทม.มีการผ่อนปรนให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทที่เป็นการตกลงร่วมกันทุกวันศุกร์ เช่น การแต่งผ้าไทย อยู่แล้ว ในบางโรงเรียนที่ยังไม่มีการตกลงร่วมกันจะต้องมีการหารือกันก่อน ทั้งนี้จะต้องมีกระบวนการติดตามและตรวจสอบ หลังโรงเรียนมีการดำเนินการตามประกาศ คาดว่าการศึกษาน่าจะทราบผลชัดเจน

 

ส่วนกรณีที่มีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจของนักเรียน ถึงขั้นทำร้ายร่างกายจะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน หากมีความผิดจริงก็ต้องลงโทษต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube