กลายเป็นเรื่องช็อก หลังถูกกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า 9Near ขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนไทย 55 ล้านคนโดยมีทั้งชื่อที่อยู่และเบอร์ติดต่อ หลุดออกมาบนโลกออนไลน์ จนหลายคนคาดการณ์ว่าที่หลุดรอดออกมานี้อาจกลายเป็นความเสียหายและความวุ่นวายครั้งใหญ่ได้ หากไปอยู่บนมือของคนไม่หวังดี
งานนี้เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำอะไรอยู่? เรื่องราวจะเป็นมาอย่างไร วันนี้เรามาสรุปให้ฟังกันแล้ว
จุดเริ่มต้น 9Near ประกาศขายข้อมูลคนไทย
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา บนเว็บไซต์ BreachForums เว็บบอร์ดของต่างประเทศ โดยได้มีการค้นพบโพสต์ๆนึงจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า “9Near” ประกาศขายข้อมูลคนไทยกว่า 55 ล้านราย ที่ได้มาจากการหน่วยงานไทยแห่งหนึ่ง โดยมีทั้ง ชื่อ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประชาชน
ซึ่งเป็นข้อมูลที่มากพอสมควรสำหรับการระบุตัวตนทั้งหมดของคน 1 คน มากพอสมควรสำหรับเหล่ามิจฉาชีพในโลกออนไลน์ อย่างที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือพวกสแกมเมอร์มีอยู่ในตอนนี้
จึงเป็นที่มาของความแตกตื่นในช่วงแรกว่าการโจรกรรมบนโลกออนไลน์กว่า 55 ล้านรายชื่อ แบบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้จริงเปล่า? เพราะถ้าหากเป็นเรื่องจริง ก็หมายความได้ว่า หน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่ด้านนี้อาจมีความสามารถไม่เพียงพอด้วยเหมือนกัน
ส่งผลให้สื่อหลายสำนักก็ได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์หลายคน มาแสดงความคิดเห็น โดยหนึ่งในนั้น ช่อง spring news ได้มีการเชิญ อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยทาง อ.ปริญญา ได้ให้ความรู้ว่า คนไทยยังไม่จำเป็นต้องกังวลกับเหตุการณ์ เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลกว่า 50 ล้านคนนี้จะเป็นจริงหรือไม่ แถมการแฮกดังกล่าวก็ยังไม่มีการเปิดเผยไฟล์ข้อมูลเต็มๆออกมาให้เห็นด้วย
ทำให้หลายคนเริ่มพอที่จะเดาได้บ้างว่า เหตุการณ์นี้อาจไม่เกิดขึ้น ก่อนที่อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมาเรื่องทั้งหมดจะกลับมาเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
9Near เปิดเผยข้อมูลคนไทย
วันที่ 30 มีนาคม ชาวเน็ตไทยพบกับข่าวร้ายอีกครั้ง เมื่อแฮกเกอร์กลุ่ม 9Near ได้เปิดเว็บไซต์ ของตัวเอง เพื่อเปิดเผย ‘ข้อมูลตัวอย่าง’ ของคนไทยหลายร้อยคนในจังหวัด ยะลา ปัตตานี กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี ที่ระบุทั้ง ชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประชาชนที่เซนเซอร์ข้อมูลบางส่วนเอาไว้
พร้อมแนบคลิปที่ อ.ปริญญา ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ด้วยการเผยเลขบัตรประชาชน วันเกิด ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อ ของอาจารย์อย่างครบถ้วนแบบไม่มีการปิดบังใดๆ เพื่อพิสูจน์ว่า กลุ่ม 9Near นี้ มีข้อมูลจริงตามที่เคยระบุเอาไว้
ทั้งนี้ ในด้านล่างของเว็บไซต์กลุ่ม 9Near ยังเขียนข้อความในเชิงขู่ภาครัฐด้วยว่า “หากกลุ่มแฮกเกอร์ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากหน่วยงานหรือองค์กรไหน ที่คิดว่าข้อมูลภายในของตนเกิดการรั่วไหล ภายในวันที่ 5 เมษายนนี้ จะทำการเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด และจะระบุด้วยว่าหลุดมาจากที่ไหนบ้าง”
ขณะเดียวกันก็โลกออนไลน์มีรายงานว่า นักข่าวกว่า 20 คน ได้รับ sms แบล็กเมล์จาก 9Near เช่นเดียวกัน ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง ทั้ง สรยุทธ สุทัศนะจินดา จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้, บรรจง ชีวมงคลกานต์ นักข่าวเวิร์คพอยท์ทีวี และ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดังจากรายการโหนกระแส
จนทำให้ในวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส พร้อมกับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
ชี้แจงว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบข้อมูลคนร้ายอยู่จากหลักฐาน sms ที่ส่งมา และมีมาตรการสั่งปิดกั้นการเข้าถึงตัวเว็บไซต์ของกลุ่ม 9Near เป็นที่เรียบร้อยภายใน 1 วันหลังเกิดเรื่อง
พร้อมกับการวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ถึงการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าเหตุใดถึงไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนตั้งแต่ช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนที่เพิ่งเกิดเหตุ เหมือนกับเจ้าหน้าที่รัฐทำงานไม่คุ้มภาษีประชาชนเลยสักนิดเดียว
9Near แถลงยุติปฏิบัติการเพราะขัดแย้งกับสปอนเซอร์
วันที่ 2 เมษายน กลุ่ม 9Near ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่าจะยุติปฏิบัติการนี้แล้ว โดยทางหน้าเว็บของแฮกเกอร์ระบุว่า
“เราไม่ต้องการทำให้พวกคุณเจ็บปวด และเราไม่เห็นด้วยกับการเมืองที่สกปรก เพราะว่าแผนการของพวกเขานั้นสกปรกเกินไป ดังนั้นเราจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ต่อไป
อย่างน้อยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้เห็นว่ารัฐบาลวิตกกังวลต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลประชาชนอย่างไรแล้ว
และทาง 9Near เอง ก็ไม่ได้ซื้อข้อมูลมาจากราชการ ไม่ใช่แก็งคอลเซนเตอร์ หรือสแกมเมอร์ และไม่เคยขายข้อมูลให้ใคร ดังนั้นเขาจึงยังมีอำนาจต่อรองอยู่ แต่ข้อมูลที่เขามี ก็มีไว้สำหรับการเคลื่อนไหว ไม่ใช่เพื่อเงิน”
และให้เหตุผลในการยุติการแบล็กเมล์ เนื่องจากมีปัญหากับสปอนเซอร์ที่สนับสนุนอยู่ เพราะกลุ่มสปอนเซอร์นี้เองต้องการแฉข้อมูลคนไทยเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ผิดกับข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้า ซึ่ง 9Near เองก็รู้ดีว่าเป็นใคร และคนไทยเองก็น่าจะรู้จักดี
พร้อมกับประกาศว่าตัวเองเป็น 9Near-Hacktivist หรือกลุ่มนักเคลื่อนไหวบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม
วันที่ 3 เมษายน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เผยความคืบหน้าการติดตามครั้งนี้ว่า กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวเป็นคนในประเทศและทำเป็นขบวนการ รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆเพื่อแก้ไขช่องโหว่ไซเบอร์ของระบบที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
สาระสำคัญจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เราทราบเจตจำนงของกลุ่ม 9Near ว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ ที่โจรกรรมข้อมูลประชาชนจริง แต่ไม่ได้ต้องการใช้ข้อมูลนี้เพื่อไถเงินรัฐหรือหน่วยไหน เพียงแต่ต้องการให้ภาครัฐเห็นถึงช่องโหว่ของตัวเอง เพื่อไม่ให้ข้อมูลสำคัญตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดีเท่านั้น
ร่วมติดตามดราม่าร้อนประเด็นดังต่อได้ที่เว็บไซต์ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลจาก
Spring News
