คลาสอิน (ClassIn) นำเสนอโซลูชันการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Hybrid Learning Solution) ที่จะเข้ามาปฏิวัติแวดวงการศึกษา ภายในงานแสดงเทคโนโลยีและการฝึกอบรมด้านการศึกษาแห่งอังกฤษ หรือ เบตต์โชว์ (British Educational Training and Technology Show หรือ BETT Show) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคมที่ผ่านมา ใ
คลาสอินพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยมากมาย ซึ่งรวมถึง คลาสอิน (ClassIn) ห้องเรียนเสมือนจริงที่ทรงพลังที่สุด, ทีเชอร์อิน (TeacherIn) แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันและการเผยแพร่สื่อการเรียนการสอนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และ คลาสอิน เอ็กซ์ (ClassIn X) ชุดโปรแกรม Internet of Things สำหรับเปลี่ยนห้องเรียนทางกายภาพแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นห้องเรียนดิจิทัลอัจฉริยะ ซึ่งเหมาะสำหรับการเรียนรู้แบบผสมผสานทุกรูปแบบ
ในช่วงที่โควิดระบาดหนักนั้น บรรดาครูผู้สอนและโรงเรียนต่างหันไปใช้แอปสำหรับการประชุมออนไลน์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานในองค์กรเป็นหลัก โดยนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอน แต่ก็พบว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ครูผู้สอนพบว่าการมีส่วนร่วมของนักเรียนอยู่ในระดับต่ำ การปกป้องความเป็นส่วนตัวในชั้นเรียนก็มีอย่างจำกัด ขณะที่การสื่อสารกันก็มีปัญหาเพราะมีการแชร์หน้าจอบ่อยครั้งและเครื่องมือไวท์บอร์ดก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการเรียนการสอนโดยเฉพาะ ด้านผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่สามารถจัดตารางเรียนได้อย่างยืดหยุ่น ส่วนนักเรียนก็ทบทวนบทเรียนแทบไม่ได้ เพราะบทเรียนออนไลน์ที่สอนผ่านแอปการประชุมสามารถบันทึกได้เฉพาะไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปในการดู
หลังจากที่โรงเรียนต่าง ๆ เริ่มปรับตัวเข้ากับยุคหลังโควิดด้วยการเรียนการสอนแบบผสมผสานออนไลน์สู่ออฟไลน์ ทั้งในและนอกสถานศึกษา คลาสอินจึงเป็นโซลูชันที่ยอดเยี่ยมสำหรับโรงเรียนต่าง ๆ โดยคลาสอิน 5.0 (ClassIn 5.0) ซึ่งเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับการเรียนการสอนในรูปแบบเสมือนจริงและผสมผสาน และสามารถเทียบเคียงได้กับแอปการประชุมต่าง ๆ ในส่วนของความสามารถในการถ่ายทอดสดภาพและเสียง อีกทั้งยังรองรับนักเรียนได้สูงสุดถึง 2,000 คนในห้องเรียนเสมือนจริงหนึ่งห้อง นักเรียนสามารถโต้ตอบกับคนอื่น ๆ ในห้องกลุ่มย่อยหรือผ่านชุดเครื่องมือห้องปฏิบัติการเสมือนจริง และผู้เรียนอีกหลายล้านคนก็สามารถชมการสอนแบบสดไปพร้อมกันได้
คลาสอินมีเครื่องมือการสอนแบบโต้ตอบกว่า 20 รายการ ซึ่งช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียนได้ และด้วยโหนดเซิร์ฟเวอร์แบบกระจายกว่า 200 จุดทั่วโลก การดีเลย์จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ขณะที่แดชบอร์ดบริหารจัดการก็ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารโรงเรียน ทำให้สามารถวางแผนการเรียนและสร้างรายงานที่มีข้อมูลครบถ้วนเพื่อสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของนักเรียนในระหว่างและหลังเลิกเรียน ขณะเดียวกัน การบันทึกการสอนอัตโนมัติและดูซ้ำได้บนคลาวด์ยังช่วยให้นักเรียนสามารถปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนของตนเองได้ นอกจากนี้ คลาสอินยังให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านแอปแชตต่าง ๆ ดังนั้นการเรียนรู้ของผู้ใช้คลาสอินจึงไม่เคยหยุดนิ่ง ที่สำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ของคลาสอินแตกต่างจากแอปสำหรับการประชุมที่ให้บริการลูกค้าองค์กรเป็นหลัก เพราะได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเรียนการสอนโดยเฉพาะ
คลาสอินก่อตั้งขึ้นในปี 2557 และก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกด้านโซลูชันการเรียนรู้แบบผสมผสาน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมทางการศึกษา และผสมผสานความสวยงามเข้ากับการเรียนการสอนประจำวันโดยอาศัยพลังของเทคโนโลยี
