fbpx
Home
|
บันเทิงสากล

แสงออกหูไม่เกินจริง! “ซองฮา จอง” กีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์

Featured Image
แสงออกหูไม่เกินจริง! ซองฮา จองกีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์  คอลแลบเปียโนโต๋ดีแบบตะโกน แฟนคลับลั่นปีหน้าต้องมาอีก!! 

 

ในขณะที่เหล่าศิลปินไอดอลและนักแสดงเกาหลีต่างก็ตบเท้ามาเยือนประเทศไทยกันไม่เว้นสัปดาห์ ใครจะคาดคิดว่าหนึ่งคอนเสิร์ตสเกลเล็กๆ แนวดนตรีเฉพาะทาง จะสร้างแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่และเติมเต็มหัวใจผู้ชมได้เหลือล้นขนาดนี้ แถมยังเป็นงานเดียวกันที่แฟนคลับของนักดนตรีหนุ่มจากเกาหลีและคนรักเสียงกีตาร์มารวมตัวอย่างอบอุ่นในคอนเสิร์ต “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” (2022 Sungha Jung’s Music Café [MuCa] Live in Bangkok) ของเจ้าชายฟิงเกอร์สไตล์แห่งเอเชีย “ซองฮา จอง” หรือ “จองซองฮา” (Sungha Jung / JUNG SUNG HA) หนึ่งไอดอลผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันในการหัดเล่นกีตาร์ของใครๆ หลายคนนั่นเอง!!

ซองฮา อัจฉริยะนักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์กลับมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้งในรอบ ปีด้วยคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า 2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” เมื่อวันที่ ตุลาคม 2565 ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับโรงละคร เอ็ม เธียเตอร์ (M Theatre) สถานที่จัดคอนเสิร์ตตั้งแต่ช่วงก่อนเริ่มงาน ด้วยการรวมตัวของแฟนๆ ที่รอคอยการกลับมาของเขาพร้อมความคาดหวังถึงบทเพลงต่างๆ ที่จะถูกนำมาแสดงในโชว์ครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ จิน คอร์ปอเรชั่น (JIN CORPORATION) และ พิคโคโล มิวสิก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (PICCOLO MUSIC ENTERTAINMENT) ประเทศไทย จับมือต้นสังกัด โกรานี สตูดิโอส์ (GORANI STUDIOS) และ จอง ซองฮา มิวสิก คาเฟ่ (MUCA) ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อมอบประสบการณ์ทางดนตรีอันยอดเยี่ยมให้กับแฟนๆ

เริ่มต้นโชว์ครั้งนี้ด้วย เพลงจากผลงานล่าสุด ‘Poetry’ อัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าเขาตั้งใจรวบรวมบทเพลงต่างๆ เข้าไว้ราวกับหนังสือรวมบทกวี เปิดเวทีที่ Prologue ต่อเนื่องด้วย Yuumi’s Waltz โดยเพลงนี้ ซองฮา แต่งให้กับแมวของเขาที่มีชื่อว่า ยูมี และเขาเลือกเพลงนี้มาเป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ตแทนความรู้สึกยินดีของเขาที่ได้กลับมาแสดงที่ไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกว่า ปี บรรยากาศบนเวทีถูกจัดให้เหมือนกับบรรยากาศอบอุ่นน่ารักในคาเฟ่ที่โอบล้อมผู้ชมเอาไว้เข้ากับชื่อของ Music Cafe [MuCa] ที่เป็นธีมคอนเสิร์ตครั้งนี้

ซองฮา ได้เปิดเผยความรู้สึกว่าเขาดีใจมากที่ได้กลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้งเพราะที่นี่ก็เปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกหลังของเขา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้นมีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้เดินทางมาเมืองไทย ทั้งเรื่องของการเกณฑ์ทหารและสถานการณ์ของโควิด-19 เพื่อความพิเศษของการได้กลับมาแสดงที่ไทยในครั้งนี้เขาจึงเตรียมเพลงไว้มากมาย ทั้งเพลงจากอัลบั้มใหม่ เพลงคัฟเวอร์ที่แฟนๆ ชื่นชอบ โดยพาแฟนๆ เข้าสู่บทเพลงเซ็ตต่อไปซึ่งมีทั้งเพลงป็อประดับตำนาน ไปจนถึงเพลงเคป็อปยอดนิยม เริ่มต้นจากเพลง Englishman in New York ของ Sting ต่อเนื่องด้วย เพลงที่ปล่อยออกมาในโปรเจ็กต์ของ MuCa ได้แก่ Loving You Girl ของ Peder Elias ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับ SHAUN (เจ้าของเพลงฮิต Way Back Home) และเพลง Don’t Look Back in Anger ของ Oasis ที่ร่วมงานกับ ควอนอินฮา (ศิลปินระดับตำนานของเกาหลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพลังเสียง)

ก่อนจะเรียกเสียงปรบมือจากแฟนๆ ดังกึกก้องจากเพลง Butter ของ BTS โดยกีตาร์ริสต์หนุ่มบอกว่าเป็นเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันมาก จึงอยากแสดงเพลงนี้ให้กับแฟนๆ ที่ไทยได้ฟังกันสดๆ แถมด้วยเพลง Dynamite ซึ่งเดิมไม่ได้อยู่ในลิสต์ของคอนเสิร์ตแต่เขาตั้งใจมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยเป็นเซอร์ไพรส์พิเศษ แล้วจึงปิดท้ายพาร์ตแรกด้วยเพลง The Ocean อีกหนึ่งงานจากอัลบั้มชุดใหม่ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่าส่วนตัวแล้วเขาชอบเพลงนี้มาก

หลังจากพักเบรก 15 นาทีในช่วงอินเตอร์มิสชั่น ซองฮา พาทุกคนเข้าสู่พาร์ตที่ ด้วยการเปิดตัว โต๋ – ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ศิลปินรับเชิญในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่ง โต๋ ได้เล่าถึงความประทับใจว่า การได้ร่วมงานกับ ซองฮา เพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์ด้วยกันในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ารู้จักกันและกันมานาน จากพลังของดนตรีที่ทำให้ทั้งคู่พูดจาภาษาดนตรีกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเพลงแรกที่ทั้งคู่ได้แจมกันก็คือ Sunroof ของ Nicky Youre ที่ ซองฮา เป็นคนเลือกขึ้นมาเพราะอยากให้บรรยากาศเพลงแบบวัยรุ่นทำให้ผู้ชมได้สนุกไปด้วยกัน ต่อเนื่องด้วยเพลง River Flow in You เพลงบรรเลงเปียโนขึ้นหิ้งของ Yiruma นักเปียโนชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง ซึ่ง โต๋ เลือกเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่ตัวเขาเองชื่นชอบมาก และเห็นว่า ซองฮา เองก็เคยเล่นเพลงนี้เป็นสไตล์ของเขาเอาไว้ เลยเป็นโอกาสดีที่จะเรียบเรียงเพลงนี้ขึ้นมาใหม่โดยผสมผสานเสียงเปียโนของ โต๋ เข้ากับเสียงกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ของ ซองฮา เพื่อให้เป็นครั้งแรกที่เพลงนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรี ชนิดในแบบ duet กัน

ถึงช่วงเซอร์ไพรส์ที่ ซองฮา และ โต๋ เตรียมเพลงไทยเอาไว้เป็นของขวัญพิเศษมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ เริ่มต้นด้วยเพลง เดือนเพ็ญ เพลงไทยคลาสสิกที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองแบบไทยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรีเพียงสองชิ้น คือกีตาร์และเปียโน แต่สะกดใจผู้ชมได้ทั้งฮอลล์ ต่อด้วยเพลง คนไม่พิเศษ เพลงฮิตของโต๋ ปิดท้ายความทรงจำสุดพิเศษที่ สุดยอดศิลปินจาก ประเทศมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยในค่ำคืนนี้ แต่เซอร์ไพรส์เพลงไทยยังไม่หมด เมื่อ ซองฮา หยิบเอาเพลง ในลิ้นชัก เพลงไทยอะคูสติกจากยุค 80 ของวง กอหญ้า ที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองอันงดงามอบอุ่นละมุนใจ มอบเป็นของขวัญพิเศษอีกเพลง ก่อนจะนำเข้าสู่ผลงานเพลงใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า Dreaming ไตเติลแทร็กจากอัลบั้มล่าสุดซึ่งแต่งขึ้นจากตัวเขาเองฝันว่าได้แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งดวงดาว บรรยากาศบนเวทีในตอนนี้จึงนำพาแฟนๆ เดินทางเข้าสู่ภาพจำลองความฝันของซองฮา ฉากหลังของท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องประกาย

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์ในวันนี้กับบทเพลงอีกหนึ่งเซ็ตที่ถูกถ่ายทอดออกมาแบบต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยเพลงป็อปร่วมสมัยอย่าง Closer ของ The Chainsmokers ซึ่ง ซองฮา เปลี่ยนไวบ์จากต้นฉบับที่เป็นแนวอิเล็กโทรป็อปมาสู่ความเป็นอะคูสติกเต็มร้อยผ่านเสียงกีตาร์ของเขา ก่อนจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปในยุค 70 กับเพลงป็อปอมตะอย่าง Close to you ของวง The Carpenters ซึ่ง ซองฮา หยิบมาเรียบเรียงใหม่โดยใส่เทคนิคการเล่นกีตาร์ของเขาเข้าไป กลายเป็นเวอร์ชั่นที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ฟังอย่างดีงาม แสงออกหูต่อเนื่องด้วย Seventh #9 เพลงจากอัลบั้ม L’Atelier ของตัวเขาเอง ซึ่งพาให้ผู้ชมโยกตัวตามไปกับความสนุกของเพลงสไตล์ฟังกี้ที่จัดเต็มหลากเทคนิคจนทำให้แฟนๆ ของซองฮาต่างรู้สึกทึ่งไปกับเพลงนี้

 

เท่านั้นยังไม่พอเขาได้เลือกเพลงที่เหล่ามือกีตาร์ต่างยกให้เป็นเพลงที่ยากในการเล่นอย่าง Neon ของ John Mayer มาโชว์ให้ได้ฟังกัน ซึ่งเพลงนี้เขาได้นำมาเรียบเรียงใหม่ให้ออกมาเป็นแบบฟิงเกอร์สไตล์ที่นอกจากจะคงไลน์กีตาร์ยากๆ ของต้นฉบับไว้แล้ว ยังมีไลน์เมโลดี้ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก นับเป็นอีกเพลงที่ยืนยันความเป็นอัจฉริยะของ ซองฮา สมกับฉายา ‘อัจฉริยะฟิงเกอร์สไตล์’ ที่เขาได้รับมาตั้งแต่เด็กๆ จริงๆ

มาถึงเพลงสุดท้าย กีตาร์ริสต์แห่งมูคา ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมสร้างช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันในคอนเสิร์ตครั้งนี้ โดยเขาให้สัญญาว่าจะกลับมาแสดงให้ได้ชมกันอีกบ่อยๆ จากนั้นหยอดมุกเรียกรอยยิ้มว่าหลังจบเพลงนี้หากไม่มีใครร้องเรียกเขาแล้ว นั่นก็คงจะเป็นเพลงสุดท้ายจริงๆ ดังนั้นหากอยากฟังเพลงเพิ่มอีกให้ลองแกล้งๆ เรียกเขาสักหน่อย ซึ่งเพลงสุดท้ายที่เขาเลือกมาปิดโชว์คือ Flaming ผลงานเพลงที่ได้รับความรักอย่างมากจากอัลบั้ม Monologue

โดยทันทีที่โน้ตตัวสุดท้ายจบลงเสียงปรบมือของผู้ชมก็ดังกึกก้องขึ้นต่อเนื่องยาวนาน ส่งสัญญาณขออังกอร์จาก ซองฮา หนุ่มนักกีตาร์จึงไม่รอช้า กลับออกมาอีกครั้งพร้อมเพลง Classical Gas ที่ Tommy Emmanuel มือกีตาร์ระดับโลกผู้เป็นเหมือนฮีโร่ของเขาเคยเล่นไว้ มาเป็นเพลงส่งท้ายความทรงจำในคอนเสิร์ต 2022 Sungha Jung’s Music Cafe [MuCa] live in Bangkok

ความประทับใจจากเหล่าแฟนๆ ในค่ำคืนนั้นยังนำพาให้แฮชแท็ก #SunghaMuCaLiveBKK ทยานขึ้นสู่อันดับ เทรนด์ทวิตเตอร์กันไปเลย โดยมีทั้งฟีดแบคชื่นชม ซองฮา ในทุกๆ ด้าน หลายรีเควสต์อยากเห็น โต๋ คอลแลบกับซองฮาอีก หลายเสียงยกให้เป็นคอนเสิร์ตที่ฮีลใจสุดๆ รวมไปถึงงานโปรดักชั่น ความสวยงามของเวที ระบบแสงสีเสียง ซึ่งถือว่าผู้จัดงานสอบผ่านได้ใจกันไปเต็มๆ

พร้อมเสียงเรียกร้องขอให้พาซองฮามาเปิดคอนเสิร์ตอีกในปีหน้า รอติดตามผลงานคุณภาพครั้งต่อไปจากทั้ง จิน คอร์ปอเรชั่น (JIN CORPORATION) และ พิคโคโล มิวสิก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (PICCOLO MUSIC ENTERTAINMENT) ได้ทาง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ @JINcorporation และ @piccolomusic.ent

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube