fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ชาวกรุงจุดฟันหลอ ไม่กลัวน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 17-21 ก.ย.

เป็นจุดหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ฟันหรอไม่มีพนังกั้นน้ำถาวร เพราะเป็นพื้นที่วัดแก้วฟ้าจุฬามณี เมื่อมีเรือขนส่งสินค้า เรือขนาดใหญ่ และเรือด่วนเจ้าพระยาวิ่งผ่าน

 

 

 

ก็จะทำให้เกิดคลื่นน้ำไหลทะลักเข้าพื้นวัด ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกไม่ได้รู้สึกกังวลน้ำเหนือที่จะระบายผ่านกรุงเทพ เพื่อลงสู่ทะเลอ่าวไทยเพราะชินแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่ออกจากบ้านของตนเอง

 

สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณพื้นที่เขตดุสิต ซึ่งมีหลายชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่ ทั้งชุมชนข้างวัดแก้วฟ้าจุฬามณี ชุมชนซอยสีคาม ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ (เชิงสะพานกรุงธน)

 

ชุมชนปลายซอยบิตตาคาม และชุมชนวัดราชผาติการาม เพราเมื่อปริมาณแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงขึ้น ก็จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือในช่วงวันที่17 – 21 ก.ย. 65

 

ที่ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก รวมทั้งยังมีการแจ้งเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จ.ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาสุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

 

ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลหลากจากพื้นที่ภาคเหนือ ลงมาเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

จึงเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่15 กันยายน 2565 ในอัตรา 1,800-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 40-60 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 16-17 กันยายน 2565

 

โดยบริเวณพื้นที่วัดแก้วฟ้าจุฬามณี ซึ่งตั้งอยู่ปากคลองบางซื่อริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นพื้นที่ฟันหลอ ที่ไม่มีพนังกั้นน้ำถาวร เพราะเป็นพื้นที่วัด เมื่อมีเรือขนส่งสินค้าเรือขนาดใหญ่ และเรือด่วนเจ้าพระยาวิ่งผ่านก็จะทำให้เกิดคลื่นน้ำไหลทะลักเข้าพื้นวัด ซึ่งจะกระทบบริเวณชุมชนต่างๆ ด้วย

 

พร้อมทั้งยังระบุว่าสาเหตุที่ตรงบริเวณชุมชนไม่มีผนังกั้นน้ำเกิดจากการต่อต้านของประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบางหลัง เพราะถ้าหากทำผนังกั้นน้ำถาวรจะทำให้เสียพื้นที่บ้านไปมากจึงทำให้บ้านหลังอื่นๆได้รับกระทบต่อเนื่องเป็นระยะหลายปี

 

อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยการเตรียมความพร้อมรับมือ ทั้งการประสานหน่วยงานภาครัฐ กทม. และทหาร ในการช่วยเหลือประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube