fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ชัชชาติ” พิฆาตระบอบ “ประยุทธ์”

ปรากฎการณ์ ชัชชาติ แลนสไลด์ ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนในเมืองกรุงศิวิไลซ์ เท่านั้น แต่ยังส่งผลไปยังระดับโครงสร้างการเมืองไทย ในอนาคตต่อจากนี้ไป

 

 

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นได้ถูกตีความหมายไปหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นสัจธรรมคือ คนกรุงเบื่อหน่าย รัฐบาลและ ผู้ว่าฯกทม. ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคสช.และแม้ความคิดเห็น หรือปฏิกิริยาจากฝั่งผู้มีอำนาจ จะไม่ออกอาการมากมายนัก แต่สัมผัสได้ถึงความหงุดหงิด ความร้อนรุ่ม ในท่าทีและวาจาที่หลุดหล่นมา

ประมุขสูงสุดฝ่าย บริหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงทัศนะว่า” กทม.เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยเท่านั้นเอง ก็เป็นความคิดเห็น ความชอบพอของประชาชน ก็ว่ากันไป ตามกลไกของประชาธิปไตย ” เมื่อถามว่าผลคะแนนสะท้อนถึงภาพรวมการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ไม่สะท้อนอะไรทั้งนั้น ไม่สะท้อนอะไรกับผม ซึ่งพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลผม พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า”

ขณะเบอร์ 2 รัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกว่า รัฐบาลขอร่วมแสดงความยินดีและพร้อมสนับสนุนการทำงานของนายชัชชาติ ตามที่เคยบอกแล้วว่าไม่ว่าใครจะได้เป็นผู้ว่าฯกทม. เราก็จะสนับสนุนการทำงาน ส่วนพรรคพปชร.ต้องมาทบทวนว่ามีอะไรที่ผิดพลาดในเรื่องการทำงาน ต้องมาแก้ไข

ทั้งนี้อย่าลืมกันว่า ผู้สมัคร ที่พลังประชารัฐหนุนหลังคือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เพราะมาจากการทำคลอดโดยอำนาจคสช. ขนาด”บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ยังต้องหลบทางให้ แถมช่วงก่อนเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ยังมีการปล่อยข่าวให้เลือก พล.ต.อ.อัศวิน เพราะเป็นการเลือกตามยุทธศาสตร์ ไม่เลือกเรา เขามาแน่ แต่สุดท้ายแล้วคะแนนทั้ง พล.ต.อ.อัศวิน นายสกลธี ดร.เอ้-สุชัชวีร์ และเจ๊รสนา รวมกัน 4คน ยังไม่ใกล้เคียง 1.3ล้านเสียงของชัชชาติ เลย

 

ปรากฎการณ์ ชัชชาติ ทำให้หวนนึกถึง งานวิชาการชิ้นหนึ่ง ของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง ‘สองนคราประชาธิปไตย’ ที่นำเสนอไว้เมื่อปี 2537 มีทฤษฎีที่บอกว่า คนต่างจังหวัดเลือกรัฐบาล แล้วคนกรุงล้มรัฐบาล ซึ่งดร.เอนกมองว่า คนชนบทเป็นฐานเสียงที่แน่นหนาของรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย และพลังเสียงของพวกเขาเหล่านี้ก็สามารถเลือกรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้

 

ซึ่งแตกต่างจากคนกรุงเทพฯ ที่มีความเห็นที่แตกต่างกัน และมักจะเป็นจุดเริ่มต้นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล โดยเริ่มส่งแรงกดดัน และเกิดการขับไล่ในที่สุด ตามทฤษฎีที่กล่าวว่า “คนชนบทเลือก คนเมืองไล่” แต่ต่อมาทฤษฎีนี้ ถูกเปลี่ยนแปลงไป ในช่วงที่มีการปลุกระดมไล่ทักษิณ ของกลุ่มพันธมิตร ต่อด้วยการไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยกลุ่มกปปส. ที่การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งขึ้น ทำให้เห็นประชาชนในต่างจังหวัดมาบุกกรุงไล่นายกฯในช่วงนั้น”

 

และในปัจจุบัน 2565 คนที่ไปลงคะแนนเลือกผู้ว่า กทม. ส่วนใหญ่รู้ดีว่า พล.ต.อ.อัศวินเป็นคนของใคร นายสกลธี เป็นเด็กในคาถาของใคร เจ๊รสนา มีใครหนุนอยู่เบื้องหลัง หรือดร.เอ้-สุชัชวีร์ที่สวมเสื้อคลุมประชาธิปัตย์ จนโดนรับน้องจนคะแนนทิ้งห่างชัชาติกว่า 5เท่า และในทางกลับกัน ต่างรู้ดีกันว่า ชัชชาติ แม้จะประกาศตัวเป็นอิสระ แต่เรื่องราวในอดีตเคยเป็นลูกน้องใคร เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลใคร ทุกคนรู้เห็นกันหมด

 

และแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกว่าผลเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ไม่สะท้อนการเมืองภาพใหญ่ แต่ในความเป็นจริง ระบอบ”ประยุทธ์ “ที่ก่อร่างสร้างตัวมา กว่า 8ปี นั้นได้ถูกเขย่าอย่างรุนแรงด้วยน้ำมือของ”ชัชชาติ” สอดคล้องกับเฮียโทนี่ ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยผ่านวิดีโอคอล ว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. และส.ก. สะท้อนความทุกข์ยากที่ประชาชนเผชิญมาตลอด 8 ปี หลังการรัฐประหารของ พล.อ. ประยุทธ์ อันเนื่องมาจากการ “ชัตดาวน์ กรุงเทพฯ”

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube