fbpx
Home
|
ทั่วไป

“หมอทวีศิลป์”ตรวจโควิด-ทำเนียบลุยฆ่าเชื้อ

Featured Image
โฆษก ศบค. โพสต์คลิปไปตรวจแล้วรอผล ขณะที่ ทำเนียบฯเตรียมฉีดพ้นฆ่าเชื้อเย็นนี้ หลังผลผู้ประกาศ NBT ติดโควิด

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. โพสต์ข้อความพร้อมคลิปผ่านเฟซบุ๊ก More ทวีศิลป์ ภายหลังจากก่อนหน้านี้ระหว่างแถลงสถานการณ์การรายวันผู้ติดเชื้อโควิด-19 และระบุว่าตนเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงภายหลังจากที่ผู้ประกาศสถานี NBT ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ปฏิบัติงานใน ศบค. พร้อมประกาศเตรียมตรวจเชื้อและกักตัว

ล่าสุดนายแพทย์ทวีศิลป์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยมีใจความว่า ประสบการณ์ตรวจหาเชื้อโควิดครั้งแรก ถูกล้วงจมูกและล้วงคอ ไม่เวอร์จิ้นแล้ว….

 

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล ออกจากทำเนียบรัฐบาล ก่อนเวลา 16.30 น. เนื่องจากฝ่ายอาคารและสถานที่ จะเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นการปรับมาตรการป้องกันโควิด-19 ภายหลังผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ NBT ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งแม้ว่าผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล แต่ก็มีความใกล้ชิดกับพิธีกรและผู้ประกาศคนอื่นๆ ของสถานี NBT ที่มาปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาล จนเป็นเหตุให้นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. ประกาศกักตัวและเตรียมตรวจเชื้อ โดยยอมรับว่า แม้จะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ต้องเพิ่มมาตรการในการป้องกัน

ทั้งนี้ ปกติแล้วทำเนียบรัฐบาลจะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นศูนย์ปฎิบัติการของ ศบค. และจุดแถลงข่าว เป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง โดยฉีดก่อนการประชุม ศบค. ชุดเล็ก และ ภายหลังการแถลงข่าว ขณะที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน และจุดอื่นๆ ก็จะฉีดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าว จึงมีการเพิ่มมาตรการฉีดพ่นเชื้อทันทีวันนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำเนียบรัฐบาล ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Swab ซึ่งผลที่ออกมาเป็นลบทั้งหมด ไม่มีผู้ติดเชื้อ จึงถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลระดับหนึ่ง

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube