fbpx
Home
|
ภูมิภาค

คลัสเตอร์รพ.มหาราชนครศรีฯโผล่หลายอำเภอ

Featured Image
คลัสเตอร์ รพ.มหาราช นครศรีฯโผล่หลายอำเภอ-จับตาไวรัสกลายพันธุ์ขณะติดเชื้อทะลักใกล้แต่700

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่นครศรีธรรมราช ยังคงมีสถิติที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้มีรายงานการติดเชื้อในพื้นที่นครศรีธรรมราช สูงถึง 662 คน ซึ่งนับเป็นสถิติที่สูงที่สุดอีกครั้งของนครศรีธรรมราช และคาดว่าจะอยู่ในลำดับ 1 ใน 3ของประเทศ และกำลังขยับเข้าไปใกล้ 700 รายอย่างน่าวิตกส่วนรายงานผู้เสียชีวิตในวันนี้มีจำนวน 2 ราย และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีรายงานการติดเชื้อจากคลัสเตอร์ที่เดินทางกลับจาก รพ.มหาราชจำนวนนับสิบรายเช่นในอำเภอเชียรใหญ่ 3 ราย ท่าศาลา 1 ราย ปากพนัง 1 ราย สิชล 1 ราย เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย พระพรหม 8 ราย จุฬาภรณ์ 2 ราย เป็นต้นส่วนการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ใน รพ.ขณะนี้สามารถควบคุมได้แล้วรวมมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันจำนวน 77 ราย ส่วนการติดเชื้อของกลุ่มญาติและผู้ป่วยนั้นถูกติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งผู้ที่ยังอยู่ในรพ.มหาราช และผู้ที่เดินทางกลับออกไปแล้ว

โดยวานนี้นายแพทย์พิทักษ์พล บุญยมาลิก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพ 11 กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าตรวจราชการติดตามการติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.มหาราช ให้กำลังใจและเร่งรัดการสำรวจบุคลากรที่ปฏิบัติงานในภาวะเสี่ยงภัยต่อการติดเชื้อ โดยนายแพทย์พิทักษ์พล ได้เปิดเผยว่าสถานการณ์ในขณะนี้ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้นมีแนวโน้มการระบาดลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของภาคใต้นั้นได้หารือกับนักระบาดวิทยาคาดว่าจะถึงจุดสูงสุด หรือพีคสุดในเดือนตุลาคมนี้จากนั้นจะเริ่มลดลง

อย่างไรก็ตามในส่วนของการติดตามสายพันธุ์เชื้อนั้นขณะนี้การระบาดหลักเป็นสายพันธุ์เดลต้า และได้รับการแจ้งเตือนการเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆ ที่พบได้ทั่วโลกเป็นพิเศษ เช่นที่สหราชอาณาจักร ได้พบการกลายพันธุ์ของเชื้อเดลต้าที่เรียกว่าเดลต้าพลัส ในส่วนของภาคใต้ตอนบนนายแพทย์พิทักษ์พล บุญยมาลิก ผู้ตรวจราชการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมควบคุมโรค ได้สุ่มตรวจสายพันธุ์เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เช่นสายพันธุ์หลักในภาคใต้และสายพันธุ์ในระดับโลกซึ่งได้ดำเนินการตลอดเวลาไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งหากพบความผิดปกติจะมีการแจ้งเตือนทันที

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube