นักเรียน ม.1-6 โยธินบูรณะแห่ฉีดไฟเซอร์เข็มแรกคึกคัก รวม 2,800 คน ขณะผู้ปกครองยอมรับกังวลบ้าง แต่มั่นใจช่วยลดความรุนแรง สร้างภูมิคุ้มกันหมู่
บรรยากาศการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 บรรดานักเรียนต่างทยอยมาเข้าคิวฉีด คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยวันนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลเด็ก ที่มาให้บริการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน ทั้งนี้ มีนักเรียนแสดงความยินยอมฉีด รวม 2,800 คน ทางโรงเรียนได้จัดรูปแบบให้นักเรียนมาตามเวลานัดแบ่งเป็นระดับชั้น ม.1 เวลา 08:00-08:40 น. ชั้น ม.2 เวลา 08:40-09:00 น. ชั้น ม.3 เวลา 09:20-10:00 น. ชั้น ม.4 เวลา 10:00-10:40 น. ชั้น ม.5 เวลา 10:40- 11:20 น. ชั้น ม.6 เวลา 11:20-12:00 น. จึงขอความร่วมมือให้นักเรียนมาก่อนเวลา
ขณะเดียวกัน โรงเรียนได้จัดพื้นที่เพียงพอรองรับการฉีดวัคซีน ตั้งแต่การเดินแถวเข้าลงทะเบียน ซึ่งต้องผ่านจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ และติดสติกเกอร์เข้ามาด้านในตลอดจนจุดบริการฉีดและจุดพักคอยสังเกตอาการ อีกทั้ง ได้ออกแนวปฏิบัติของนักเรียนให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารเช้าก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนและงดการพูดคุยกับเพื่อนในห้องประชุมชั้น 4 ซึ่งเป็นจุดบริการฉีดวัคซีน ส่วนแนวทางของผู้ปกครองให้ส่งนักเรียนบริเวณประตูด้านหน้าโรงเรียน โดยผู้ปกครองสามารถพักคอยที่บริเวณโรงอาหาร นอกจากนี้ ยังชี้แจงด้วยว่า นักเรียนหญิงอายุตั้งแต่ 12 ปี จะได้รับวัคซีนทั้งเข็ม 1 และ 2 ส่วนนักเรียนชายอายุ 16-18 ปี ได้รับวัคซีนเข็ม 1และเข็ม 2 ขณะนักเรียนชายอายุ 12-15 ปีจะได้รับเข็ม 1 เท่านั้น ส่วนในวันที่ 15 พ.ย.นี้จะเป็นการกำหนดรับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ปกครอง พบว่า ส่วนใหญ่ ต้องการให้นักเรียนได้รับวัคซีน เพื่อเปิดเรียนแบบ on-site เพราะมองว่าการเรียนแบบออนไลน์ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เด็กมีภาวะเครียดจากการเรียน ถ้าหากมาเรียนที่โรงเรียนแล้วได้พบเจอเพื่อนๆ และได้เรียนกับครูโดยตรง จะดีกว่า แม้สถานการณ์การติดเชื้อ ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบันนั้นยอมรับว่า กังวล แต่ก็มั่นใจในวัคซีนที่จะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ และจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขณะที่น้องๆ นักเรียน ต่างดีใจ ที่ได้ฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมเปิดเรียน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
