fbpx
Home
|
อาชญากรรม

แนะ 5 เทคนิคดื่มน้ำ ช่วยลดน้ำหนัก ดีต่อสุขภาพ

Featured Image
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 5 เทคนิคในการดื่มน้ำ ช่วยลดน้ำหนัก ดีต่อสุขภาพผิวพรรณ และช่วยชะลอวัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องดื่มเป็นประจำทุกวัน หากขาดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 2-3 วันในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน โดยดื่มทีละน้อย ไม่ดื่มเร็วหรือมากเกินไป ซึ่งการดื่มน้ำมากขึ้น ยังช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก,ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินด้วย และการดื่มน้ำเปล่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดความอยากอาหารได้ ทำให้แคลอรีที่ได้รับจากอาหารลดลงและลดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักเพิ่ม นอกจากนี้การดื่มน้ำเปล่าที่เพียงพอจะช่วยเรื่องสุขภาพของผิวพรรณด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญต่อร่างกายและช่วยชะลอความอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย

สำหรับ5 เทคนิคการดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก คือ สามารถดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน ในเวลา 06.00 – 07.00 น. เพื่อช่วยลดภาวะขาดน้ำจากการนอนหลับ อีกทั้งช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย ,ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วงเช้า ในเวลา 08.00 – 09.00 น. โดยดื่มน้ำก่อนมื้อเช้า 15 – 20 นาทีแล้วค่อยกินมื้อเช้าเพราะถ้ากินอาหาร ตามทันที น้ำที่ไปเจือจางน้ำย่อย จะส่งผลให้การย่อยอาหารไม่ดี และหลังอาหารให้จิบน้ำเพียงครึ่งแก้วพอ, ดื่มน้ำ 2 – 3 แก้วในช่วงเวลาระหว่างวัน เวลา 09.00 – 13.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาทำงาน ให้ดื่มน้ำระหว่างวันไปเรื่อย ๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำในระหว่างวัน นอกจากนี้น้ำยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย อีกด้วย , ดื่มน้ำ 2 แก้ว ช่วงบ่ายและเย็น เวลา 13.00 – 17.00 น. พยายามดื่มน้ำเปล่าในปริมาณ 2 – 3 แก้ว จะช่วยแก้กระหาย และทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นและดื่มน้ำ 2 – 3 แก้ว ช่วงเย็นและก่อนนอน เวลา 18.00 – 22.00 น. การดื่มน้ำช่วงเย็น ให้ดื่มก่อนและหลังกินมื้อเย็น และแบ่งบางส่วนไปดื่มช่วงก่อนนอน เพื่อช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ และป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube