โควิดแปดริ้วพุ่งไม่หยุดล่าสุดแตะ10ราย

ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.ฉะเชิงเทรา ว่าในวันนี้ได้มีการรายผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่มเติมอีกจำนวน 3 จากเดิมเมื่อวานมีจำนวน 6 ราย โดยเป็นกลุ่มที่สัมผัสเชื้อกันภายในครอบครัวจากผู้ป่วยรายแรก จากการระบาดระลอก 2 ซึ่งเป็นหญิงสาววัย 24 ปี ซึ่งล่าสุดเป็นบิดาวัย 51 ปี หลังจากได้มีการตรวจพบว่ามารดา และผู้เป็นย่าติดเชื้อไปก่อนหน้าแล้ว รวม 4 คนในครอบครัวเดียวกัน ส่วนอีก 1 รายนั้นเป็นชายวัย 46 ปี ผู้ที่ได้ไปสัมผัสเชื้อจากการไปหาซื้อกุ้งในตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาครโดยตรง และอยู่ในพื้นที่เดียวกันคือที่ ต.หอมศีล อ.บางปะกง นอกจากนี้ยังจะมีการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมอีก 1 รายในวันพรุ่งนี้เป็นชาย อายุ 35 ปี อยู่ใน ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางนำกุ้งไปส่งขายที่แพกุ้งมหาชัย โดยจะเป็นรายที่ 10 ของ จ.ฉะเชิงเทรา แต่อยากฝากถึงประชาชนใน จ.ฉะเชิงเทรา ว่า จากการสอบสวนโรคและเข้าตรวจหาเชื้อในเชิงรุกของศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้เข้าไปตรวจหาเชื้อผู้มีความเสี่ยงสูง จำนวน 146 รายนั้น ผลออกมาเป็นลบจำนวน 133 รายแต่ยังให้กักตัวอยู่ และอีก 13 รายยังรอผล โดยผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบในขณะนี้ทั้ง 10 ราย ล้วนมีประวัติเกี่ยวข้องหรือเดินทางไปยังที่แพกุ้งมหาชัยทั้งหมด โดยเป็นคนในครอบครัวที่สัมผัสกันโดยตรงกับผู้ป่วยรายแรก คือ หญิงสาววัย 24 ปีถึง 4 ราย จึงขอย้ำว่าอย่าได้พากันตื่นตระหนกกันมากจนเกินไป เพราะเชื้อไม่ได้ติดต่อกันง่ายมากนัก หากไม่ได้เข้าไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดโดยตรง นอกจากนี้ผลการตรวจเพื่อนร่วมงานของสาววัย 24 ปีทั้ง 9 รายนั้นมีผลออกมาเป็นลบ หรือไม่มีใครติดเชื้อโควิด 19 เลย ฉะนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำที่กำลังถูกสุ่มตรวจหาเชื้ออยู่นั้น จึงมีโอกาสน้อยที่ผลจะออกมาเป็นบวก ขณะที่อีก 13 ราย ที่มีความเสี่ยงสูงและรอผลอยู่นั้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาทำการบันทึกข้อมูลสอบสวนโรค ซึ่งจากการที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวถึงพื้นที่การตรวจพบเชื้อว่ามีผู้ป่วยออกไปนั้น มีทั้งผลดีและผลไม่ดี โดยผลดีคือประชาชนเกิดความตื่นตัวและระมัดตนเองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ได้ ส่วนผลเสีย คือ คนในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยอยู่ในชุมชน กลายเป็นผู้ที่ถูกสังคมรังเกียจ และไม่มีใครอยากครบหาสมาคมด้วย หรือไม่ยอมให้เข้ามาใกล้ โดยส่งผลกระทบต่อคนทั้งหมู่บ้าน และกำลังจะขยายวงออกไปจนถึงในระดับตำบลอีกด้วย ขณะที่การนับจำนวนผู้ป่วยนั้นยังคงมีความสับสนกันอยู่บ้าง โดยผู้ป่วยรายที่ 2 ซึ่งมีการตรวจพบไปก่อนหน้านั้น เป็นชายวัย 28 ปี ที่เดินทางไปซื้อกุ้งในตลาดมหาชัย และได้ไปตรวจหาเชื้อในกรุงเทพฯ จึงทำให้ยอดไปรวมอยู่กับผู้ป่วยในกรุงเทพฯ แต่ขณะนี้ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลตามกระบวนการสาธารณสุขในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งหมดแล้วรวม 10 ราย โดยอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง 6 ราย พื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ 4 ราย นายแพทย์ระดับรองสาธารณสุขจังหวัด ผู้ทำการสอบสวนโรคเผย ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีอัตราของผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แบบรายวันนั้น ตลอด 3 วันที่ผ่านมาได้ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวกันเพิ่มมากขึ้น โดยร้านค้าที่เดิมผู้ที่มาเข้าใช้บริการนั้น เพียงแต่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันโรคเข้ามาแล้ว สามารถที่จะเข้าไปใช้บริการได้ แต่ล่าสุดนั้น ต้องให้ทำการล้างมือเพิ่มเติมอีก 1ขั้นตอนด้วยเจลแอลกอฮอล์ ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าขนาดใหญ่ ระดับกลุ่มทุนผู้ค้าปลีกนั้น ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการอย่างเข้มงวดอีกครั้ง นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังสังเกตเห็นว่า แม้แต่การจอดรถหรือยานพาหนะ ยังมีการจอดแบบห่างๆ กัน หรือมีการเว้นระยะห่างระหว่างคัน แบบโซเชียลดิสแทนซิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เช่น บริเวณลานสนามหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่มาติดต่อราชการนั้น ได้พากันเว้นระยะห่างในการจอดรถระหว่างคัน เพิ่มขึ้นด้วย จนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน