ส.ค.ส. 2564

ห่างหายไปจากพื้นที่แห่งนี้มา 2 สัปดาห์…เพราะหลังจากที่ลากยาวว์ว์ว์ฉากสถานการณ์เรื่อง “กลียุค”ตามความคิด ความเชื่อ ของชาวอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณมาถึง 4 ตอนซ้อนๆด้วยกัน ก็อยากที่จะให้บรรดาแฟนนานุแฟนทั้งหลายมีโอกาสได้พักหัวสมองเอาไว้มั่ง เพราะความเป็นไปของบ้านเมือง ไม่ว่า “บ้านเขา” หรือ “บ้านเรา” หรืออาจเรียกว่าแทบทั้งโลกนั่นแหละ ออกจะเป็นอะไรที่ “น่าปวดหัวฉิบหาย”ไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะถ้าหากอะไรต่อมิอะไรมันกำลังไหลเข้าสู่ช่วงจังหวะเวลาที่เรียกๆกันว่า “กลียุค”ตามที่ได้นำเสนอไปเป็น “มินิซีรีส์”ให้พอรับรู้ รับทราบ กันไปบ้างแล้ว… และอาจเป็นด้วยเหตุนี้ หรือไม่ อย่างไร? ก็แล้วแต่จะไปคิดๆกันเอาเอง เลยทำให้ไม่ว่าประเทศไหนต่อประเทศไหน แม้แต่ประเทศที่ได้ชื่อ “ประชาธิปไตย”เต็มไปด้วย เสรีภาพ อิสรภาพ สิทธิมนุษยชง มนุษยชน ใดๆก็แล้ว ลองค่อยๆสังเกตุ ค่อยๆติดตามให้ละเอียด ถี่ถ้วน กันไปเป็นระยะๆน่าจะพอเห็นได้ไม่ยากว่า ต่างก็หนีไม่พ้นที่จะต้องงัดเอา “อำนาจ”ในรูปแบบต่างๆออกมาควบคุม ผู้คนพลเมือง เพิ่มขึ้นๆไปด้วยกันทั้งสิ้นหรือนับวันยิ่งหนีไม่พ้นต้องแสดงถึงแนวโน้มความเป็น “อำนาจนิยม”หรือจะเรียกว่า“เผด็จการ”ก็ไม่น่าจะถึงกับผิดพลาดซักเท่าไหร่ออกมาใช้กันอย่างเป็นระลอกๆไปด้วยกันทั้งสิ้น… ไม่งั้น…โอกาสที่จะ “เละ…กับ…เละ”ภายใต้ฉากสถานการณ์ที่กำลังมาถึงในอนาคตหรือฉากสถานการณ์แบบเดียวกับ “กลียุค” นั่นแหละ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ไม่ว่าประเทศเสรีประชาธิปไตยแบบถอดปลอก ถอดด้าม อย่าง“ฝรั่งเศส” ที่นักวิชาการบางรายในบ้านเรา อยากลอกแบบ เลียนแบบเสียเหลือเกิน เห็นว่า…ถึงขั้นต้องประกาศว่า ใครก็ตาม…หรือพลเมืองชาวฝรั่งเศสรายใดก็ตาม ที่ไม่คิดจะ “ฉีดวัคซีน”เผลอๆ…อาจถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นรถ ขึ้นรา ไม่สามารถใช้บริการสาธารณะอย่างระบบขนส่งมวลชนทั้งหลาย เอาเลยก็ไม่แน่ ??? ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะนำมาใช้ “บังคับ”กันอีกเมื่อไหร่ ตอนไหน เพราะแค่ “สั่งห้าม” ไม่ให้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในลักษณะไม่ดี ไม่งาม ลงไว้ในเว็บไซต์ของตัวเอง ที่เรียกๆกันว่า “Global Security Laws” อะไรประมาณนั้น ยังต้องเจอกับ “การประท้วง”ชนิดไม่ไล่-ไม่เลิก ถึงแม้นจะ“ฉีดน้ำผสมสารเคมี”หนักซะยิ่งกว่าบ้านเราไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ยังแทบ “เอาไม่อยู่” และแม้คิดจะปรับแก้ เปลี่ยนแปลงกฏหมายดังกล่าวก็ดันต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ตำหนวด โผล่ออกมาประท้วงซะอีกต่างหาก… แม้แต่ประเทศ“ผู้ดีอังกฤษ”ก็แทบไม่ต่างไปจากกัน…ภายใต้ฉากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ“โควิด” ระลอกใหม่ หรือระลอก 2 ระลอก 3 ก็แล้วแต่ เล่นเอาต้องหันมาควบคุม บังคับบรรดาผู้ดีชาวอังกฤษทั้งหลาย ชนิดไม่ว่างานฉลองคริสต์มาศ งานฉลองปีใหม่ต่างออกไปทาง “งานกร่อย”ไปด้วยกันทั้งสิ้น แล้วนี่…เห็นว่าอดีตผู้นำอย่างอดีตนายกฯ “โทนี่ แบลร์”ก็เพิ่งออกมาให้คำแนะนำรัฐบาลไปหมาดๆว่าต้องหาทางเปลี่ยนแปลงประเทศอังกฤษ สังคมอังกฤษ ในแบบ “Radical Change” หรือแบบ “หนักหน่วง-รุนแรง”เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือต้องหันมา “ควบคุม” และ“บังคับ” ใครต่อใคร เพื่อรับมือกับความหายนะ ที่กำลังจะตามมา จากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ “โควิด”ไม่ว่าในทางสุขภาพ หรือในทางเศรษฐกิจอันอาจหนักหนา สาหัส ระดับพอๆกับ “กลียุค”ของพวกอินตะระเดียโบราณเอาเลยก็ไม่แน่!!! ส่วนประเทศประชาธิปไตยของแท้และดั้งเดิมอย่างคุณพ่ออเมริกา…ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เพราะแทบทุกสิ่ง ทุกอย่าง ออกไปทางเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊กเละเป็นเต้าหู้ตกโต๊ะ ฯลฯ หนักยิ่งเข้าไปทุกที และไม่ว่าจะพยายาม “ควบคุม-บังคับ”กันในลักษณะของผู้นำที่กำลังจะพ้นตำแหน่งอย่าง “ทรัมป์บ้า” คือเป็นไปเพื่อ“ผลประโยชน์ของตัวกูเอง”นั่นแหละเป็นหลัก หรือคิดจะ “ควบคุม-บังคับ”กันในแนวของว่าที่ประธานาธิบดีผู้แสนแก่ แก่นชรา อย่าง“โจซึมเซา”ที่อาจเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่นอยู่มั่ง แต่ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ก็แทบ“เอาไม่อยู่”ไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือแนวโน้มที่อะไรต่อมิอะไรมันจะออกไปทาง“กลียุค”ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที… ขณะที่ประเทศ “เผด็จการ”ฉบับของแท้และดั้งเดิม อย่างคุณพี่จีน หรือแม้แต่“ประชาธิปไตยมาเฟีย”อย่างรัสเซียนั้น ก็คงเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่า การ “ควบคุม-บังคับ”ย่อมต้องถือเป็นสิ่งปกติ-ธรรมดาอยู่แล้วแน่ๆ แต่ที่ออกจะก่อให้เกิดความน่าคิด-สะกิดใจ สำหรับใครต่อใครอยู่ไม่น้อย ก็คือมันออกจะเป็นอะไรที่ “ได้ผล”เอามากๆ ไม่ว่าในแง่การเมือง-เศรษฐกิจ-หรือสังคม สามารถทำให้คุณพี่จีนใกล้ผงาดขึ้นมาเป็น “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก” ในอีกไม่นาน-ไม่ช้าสามารถก่อให้เกิดการขจัด“ความยากจน”ชนิดองค์กรระหว่างประเทศอย่างสหประชาชาติยังต้องออกมายอมรับกันเห็นๆ ว่าผู้คนระดับนับเป็นร้อยๆล้านเกิดการยกระดับพ้นเส้นมาตรฐานความยากจน ภายในชั่วเวลาคนรุ่นเดียว หรือแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้นเอง แถมยังสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเอาชนะความปั่นป่วน วุ่นวาย ในทางเศรษฐกิจ ทำท่าว่าจะกลับมาเจริญเติบโตกันในแบบเศรษฐกิจรูปตัว “V” ตัวเลข GDPปีนี้นอกจากไม่ “ติดลบ”อยู่เพียงประเทศเดียว ยังอาจพุ่งไปถึง 7 เปอร์เซนต์ 8 เปอร์เซนต์ในปีหน้า ได้อีกต่างหาก… ส่วนคุณน้ารัสเซีย ที่พร้อม “วางยาพิษ”ใครต่อใครท่ามกลางความเป็นประชาธิปไตย ก็คงปฏิเสธมิได้อีกนั่นแหละว่า ภายใต้การนำของ “บุรุษเหล็ก”ที่เคยชินกับการ“ควบคุม-บังคับ”ใครๆมาตลอดช่วงทำหน้าที่เป็น “KGB” ไม่ว่าการเมือง-เศรษฐกิจ ไปจนถึง “การทหาร”ของรัสเซียยุคใหม่ สามารถหวนกลับคืนมาสู่ความเป็น“มหาอำนาจ”ดังเดิม ได้อย่างไม่น่าเชื่อก็คงต้องเชื่อ หรือแสดงให้เห็นว่า ด้วยการ“ควบคุม-บังคับ”กันแบบเอาเรื่อง เอาราวนี่เอง ถึงได้ทำให้รัสเซียกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ หรือความ “Great Again”โดยไม่ต้องอาศัยคำโฆษณา หาเสียง แบบผู้นำอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย… อันนี้นี่แหละ…ที่เลยก่อให้เกิด “คำถาม”จำนวนไม่น้อย สำหรับบรรดาประเทศใหญ่ประเทศน้อยทั้งหลาย ต่อฉากสถานการณ์ความเป็นไปของแต่ละประเทศหรือของโลกทั้งโลก ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน-ไม่ช้า หรือที่กำลังเป็นไปในแนว“กลียุค”หนักยิ่งเข้าไปทุกที ว่าจะ “ปรับสภาพ”ตัวเองอย่างไร ไปในทิศทางไหนถึงจะสามารถช่วยให้เกิดการ “เอาอยู่”ภายในสังคมของตัวเองได้จริงๆ!!! ดังนั้น…เท่าที่พยายามลากยาวว์ว์ว์ถึงเรื่องแนวคิดของคนอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณ หรือเรื่องฉากสถานการณ์ที่ยุวกษัตริย์ “ยุธิษฐิระ”ได้เอ่ยถามอภิมหาฤาษี “ไวศยะสัมปายนะ”เอาไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นไม่รู้กี่พันกี่หมื่นปี มาก่อนหน้านั้น มันจึงน่าจะพอเป็น “ประโยชน์”สำหรับใครต่อใครให้เอาไปนั่งคิด นอนคิด กันได้มั่ง… และคงหนีไม่พ้นต้องฝาก “คำถาม”ที่ว่านี้…เอาไว้ในช่วงใกล้ส่งท้ายปีเก่าขึ้นต้นปีใหม่ หรือระหว่างที่มีช่วงเวลาหยุดยาว และไม่อยากจะออกไปไหนต่อไหนแม้ว่ายังไม่มีใครคิดจะ “ควบคุม-บังคับ”ก็เถอะ ว่าสุดท้ายแล้ว…ประเทศไทยสังคมไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ควรจะปรับตัว ปรับสภาพ ไปในแนวไหนทิศทางไหน มันถึงพอช่วยๆให้เกิดการ “เอาอยู่”ต่อฉากสถานการณ์ในอนาคตได้มั่งรวมทั้งขออำนวย อวยพร ให้บรรดาแฟนนุแฟนที่อาจเหลืออยู่น้อยเต็มทีรวมทั้งทั่นๆทั้งหลาย เจริญไปด้วยอายุ-วรรณะ-สุขะ-และพละ ไปตลอดช่วงปีหน้าฟ้าใหม่ ด้วยเทอญญ์ญ์ญ์… ——————————————————–