fbpx
Home
|
ข่าว

กกท.พร้อมประสานภาครัฐช่วย“โค้ชเช”ได้สัญชาติไทย

Featured Image
กกท.หารือร่วมสมาคมกีฬาเทควันโดเตรียมประสานภาครัฐช่วยขอสัญชาติไทยให้ “โค้ชเช” หลังพา “น้องเทนนิส” คว้าเหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020

กกท. หารือร่วมสมาคมกีฬาเทควันโด ในเรื่องการขอสัญชาติไทยของ เช ยอง ซอก “โค้ชเช” หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ที่ล่าสุดสร้างผลงานในระดับโอลิมปิกเกมส์ ได้พา “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ วัย 23 ปี ประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองกีฬาเทควันโดในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ได้หารือร่วมกับ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ ในการประสานขอสัญชาติไทยให้กับ โค้ชเช เนื่องจากโค้ชเช ได้เข้ามาอยู่ประเทศไทยและทำงานกับสมาคมเทควันโด ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2545 (19 ปี) อีกทั้ง โค้ชเช ได้พยายามยื่นขอสัญชาติไทย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องส่วนตัวรวมไปถึงเรื่องเอกสารด้วย

จนกระทั่งล่าสุด ทางด้านเอกสารโค้ชเช ได้มีการเตรียมการเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และภายหลังจากกักตัวที่จังหวัดภูเก็ตตามขั้นตอนแล้ว จะเตรียมเอกสารทั้งหมดยืนขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการต่อไป

โดย กกท.กับ สมาคมฯ จะช่วยดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในการขอสัญชาติไทยของหัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโด ในครั้งนี้ อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับผลงานสำคัญ ของ เช ยอง ซอก คือ นำทีมนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันในเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์จนสร้างผลงานโดดเด่น ได้แก่

-บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2008 ประเทศจีน

-เทวินทร์ หาญปราบเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2016 ประเทศบราซิล

-เยาวภา บุรพลชัย เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงเอเธนส์ ในปี 2004 ประเทศ กรีซ

-ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ที่อังกฤษ ในปี 2012 และเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่กว่างโจว ในปี 2010 ประเทศจีน

-สริตา ผ่องศรี และชัชวาล ขาวละออ เหรียญทองเอเชียนเกมส์ ที่กว่างโจว ประเทศจีน

-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2016 ที่ประเทศบราซิล

-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์แรกในประวัติศาสตร์ของไทย 2020 ประเทศญี่ปุ่น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube