“พั้นช์ วรกาญจน์” ยอมรับกินบุญเก่า ปัดตกอับ ไม่อายขายน้ำส้มหารายได้เสริม
เป็นอีกหนึ่งคนที่ผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์หารายได้เสริมช่วงสถานการณ์โควิด สำหรับนักร้องสาวพั้นช์ วรกาญจน์ ที่ถูกแคนเซิ้ลงานเพียบเหมือนกันศิลปินดาราคนอื่นๆ งานนี้เจ้าตัวเลยชวนครอบครัวมาทำน้ำส้มขาย เรียกว่ากระแสตอบรับดี จนมีแพลนอยากจะทำเป็นอาชีพเสริมในระยะยาวเลยทีเดียว พร้อมเปิดใจเรื่องมีทายาทว่าก่อนหน้านี้ปล่อยธรรมชาติแล้วแต่ยังไม่มา จ่อหาเวลาปรึกษาคุณหมออย่างจริงจัง
ช่วงนี้ผันตัวมาเป็นแม่ค้าด้วยเหมือนกัน?
“ ใช่ค่ะ ด้วยความที่เรารู้สึกว่าน่าจะอีกนานเพราะอาชีพนักร้องถ้าจะเปิดก็น่าจะเป็นส่วนท้ายๆเลย ตอนนี้ก็เหมือนว่ายอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน ก็เลยรู้สึกว่าน่าจะหาอะไรทำดีกว่าก็เลยหันมาทำธุรกิจเป็นน้ำส้มค่ะ ทำมาก็ประมาณ 14 วันแล้วค่ะที่เราได้ขาย ปกติแล้วเราเป็นคนชอบค้าขายอยู่แล้ว ชอบทำตัวเองไม่ให้ว่าง เราก็รู้สึกว่านี่คือการที่เรามาถูกทางเหมือนกัน แล้วพอได้มีโอกาสทำ พอเราได้ลงไป เราโชคดีตรงที่ว่ามีพี่ๆน้องๆสื่อมวลชนให้ความสนับสนุนเราด้วย เหมือนช่วยเราโปรโมตไปในตัวด้วย รวมถึงแฟนคลับที่ติดตามเรามานานแล้วเขาก็มาสนับสนุนเราและอุดหนุนเรา เราก็รู้สึกว่าขอบคุณมากๆที่ยังคิดถึงกันอยู่ ขอบคุณที่ไม่ว่าพั้นช์จะทำอะไรก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี”
“ รายได้เป็นศูนย์ไหม ก็โดนแคนเซิลไปก็ถือว่าเป็นศูนย์ค่ะ แต่ว่าเรายังโชคดีที่เรายังได้ทำงานในช่วงเพลงเก็บซ่อนไปก่อนแล้วก็ ถือว่ามาเฉลี่ยกันให้กับเราในช่วงนี้ที่มีวิกฤติโควิด ถือว่ากินบุญเก่า ถามว่าเอาเงินเก็บมาใช้ไหมคือยังโชคดีนะคะที่เราไม่ต้องเช่าบ้าน มันก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะ ในเรื่องของอาหารการกิน เราก็ทำกันเป็นครอบครัว ก็เหมือนแบ่งเบากันไป ช่วยเหลือกัน ก็ถือว่าเรายังคงทรงตัวในระยะนี้ของเราได้อยู่ช่วงหนึ่ง”
“ คือการขายน้ำส้มในตอนแรกที่เราคิดคือขายเล่นๆขายว่างๆไม่มีอะไรทำก็เลยมาทำกัน รวมไปถึงน้องๆและญาติพี่น้องด้วย เขาอยู่บ้านกัน เขาก็ตกงานนะไม่มีงานทำ เราก็เอาน้องของเรามาเป็นแอดมินขายตอบลูกค้าให้ พี่ข้างบ้านที่ขับมอเตอร์ไซต์อยู่ก็เอามาช่วยส่งน้ำส้มให้ ทุกคนกลายเป็นว่ามีรายได้หมดเลย เราก็รู้สึกว่ามันดีกว่าที่เราคิดไว้ตั้งแต่ตอนแรก คือทุกคนได้มีรายได้ทุกคน เราก็รู้สึกว่าถ้าเราทำไปมันก็ดีนะ เพราะเราไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะมาก เพราะเราทำจากแหล่งผลิตที่เรารู้จักเลยมันก็เลยได้ต้นทุนที่ไม่สูงและจริงๆแล้วน้ำส้มนี้ เขาทำส่งโรงแรมที่ภูเก็ตแต่คราวนี้โรงแรมที่ภูเก็ตปิดเพราะโควิด น้องคนที่ทำก็เลยบอกว่าให้เราช่วยหน่อยได้ไหม มารับน้ำส้มของหนูไปขายไหม เพราะว่าหนูส่งภูเก็ตตลอดเลย โรงแรมภูเก็ตระดับห้าดาวเลยค่ะ แต่คราวนี้จังหวะที่มันปิดตัวลง เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไร งั้นเราก็มาทำด้วยกัน ตอนแรกพั้นช์ยังไม่ได้ทำเพราะว่าเขาให้มาชิมก่อนพอเรามาชิมแล้วรู้สึกว่าอร่อย เพราะเราเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว และรู้สึกว่ารสชาติแบบนี้มันไม่ได้มีให้เห็นกันได้ทั่วไปก็เลยรู้สึกว่าโอเคและทำเลย ตกอับหรือเปล่าก็ยังนะคะ ก็มีแต่คนให้กำลังใจว่าก็ดีแล้วค่ะมีอะไรทำ สู้ๆ อะไรแบบนี้มากกว่าค่ะ เราไม่ได้อายค่ะ เราชอบเราสนุกจริงๆ พั้นช์ขายของมาตั้งนานแล้วแหละ แต่ว่าหลายๆคนอาจจะไม่ได้รู้ ก่อนหน้านี้เมื่อ4-5ปีที่แล้วเราก็ไปเปิดร้านขายเสื้อผ้าในห้าง ก็ไปยืนขายเหมือนกัน ก็จะมีแฟนคลับจริงๆที่เขารู้และไปช่วยสนับสนุน”
ส่วนเรื่องแพลนการมีทายาทสาวพั้นช์ ก็เปิดใจว่า…
“ ก็จริงๆพร้อมจะมีตั้งนานแล้วนะคะ แต่ด้วยความที่เหมือนว่าเขาจะมายาก น่าจะติดยาก ถ้าเกิดว่าหลังจากนี้ไปสัก 1-2 ปีอาจจะต้องไปปรึกษาหมอแล้ว แต่ว่าเรามีธุรกิจอะไรแบบนี้ทำเราก็รู้สึกว่าอุ่นใจก็อาจจะต้องเริ่มไปปรึกษาหมอบ้าง เคยไปปรึกษาหมอค่ะ หมอก็บอกว่าเราตกไข่เร็วกว่าปกติ แต่ว่าเราก็ยังไม่เข้าใจนะ แต่ก็ประมาณแบบนี้ค่ะ คือจริงๆมันควรจะตกไข่วันนี้แหละ แต่เราตกก่อนหรืออะไรประมาณนี้ ก็เลยยังไม่ได้ไปหาหมอแบบจริงจัง แต่ว่าหลังจากนี้ต้องไปหาหมอจริงจังแล้ว ส่วนแพลนฝากขายยังไม่มีค่ะ คือในช่วงแรกเราก็นับวันตกไข่เรียบร้อยนะคะ แต่ว่าก็ไม่มีไม่ติด เราก็เลยรู้สึกว่าหมอเคยบอกว่าไข่เราตกเร็วมั้ง ก็เลยไม่ตรงกัน งั้นเราก็เลยรู้สึกว่าปล่อยไปดีกว่าถ้ามาก็มาไม่มาก็ค่อยว่ากันอีกที เรากังวลไหมด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ด้วยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจว่ายังไม่อยากมีในตอนนี้ด้วย แต่ว่าถ้าเกิดจะมีเราก็ดูแลตัวเองได้ค่ะ”
