กระทรวงแรงงาน ประสาน สธ. และสตม.ในพื้นที่ เร่งตรวจโควิดและเก็บอัตลักษณ์ภายใน 16 มิ.ย.นี้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการปกครอง และสาธารณสุขบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าวอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันตามมติครม. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 ที่ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดทันเวลา จะสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานตามมติครม.เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 พบว่ามีคนต่างด้าวลงทะเบียนทั้งสิ้น จำนวน 654,864 คน จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) แล้ว 483,021 คน ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว 408,720 คน และได้รับอนุญาตทำงาน (อนุมัติ บต.48) แล้ว 201,107 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ค. 64) ซึ่งแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันกลุ่มนี้จะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล พร้อมทั้งยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานกับกรมการจัดหางานผ่านระบบออนไลน์ ให้แล้วเสร็จภายใน 16 มิ.ย. 64 จึงสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ มิฉะนั้นจะส่งผลให้มีสถานะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งมีความผิดทั้งนายจ้าง และแรงงานต่างด้าวเอง
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการของคนต่างด้าวแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา กรมการจัดหางานได้มอบหมายให้จัดหางานจังหวัด เร่งประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อร่วมวางแผนและบูรณาการจัดการการตรวจหาเชื้อโควิด -19 และการจัดการเก็บอัตลักษณ์บุคคลทั้งในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่มีนายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อ (Name List) และคนต่างด้าวแจ้งข้อมูลบุคคลด้วยตนเอง (กรณีไม่มีนายจ้าง) โดยขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประเมินสถานการณ์และแจ้งศักยภาพ ในการตรวจหาเชื้อโควิด -19 ของพื้นที่ในแต่ละวันให้ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดทราบ เพื่อติดตามเร่งรัดนายจ้างให้นำคนต่างด้าวมาดำเนินการตามกำหนดต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news