fbpx
Home
|
ทั่วไป

“หมอยง”ถอดรหัสพันธุกรรมโควิดทองหล่อมาจากเขมร

Featured Image
“หมอยง”เปิดหลักฐานถอดรหัสพันธุกรรม ย้ำชัดคลัสเตอร์ทองหล่อสายพันธ์อังกฤษมาจากกัมพูชา

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊ก แจงโควิด-19 เหตุผลที่บอกว่าการระบาดที่สถานบันเทิงทองหล่อเป็นสายพันธุ์ไวรัสเป็นสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 มาจากกัมพูชา ซึ่งแต่เดิมการระบาดที่สมุทรสาครและแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นสายพันธุ์ในกลุ่ม GH ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับการพบในผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมาร์ ส่วนสายพันธุ์อังกฤษได้เริ่มมีการระบาดอย่างมากในประเทศกัมพูชา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.จนกระทั่งปัจจุบันการระบาดก็ยังไม่หยุด มีผู้ป่วยในการระบาดรอบนี้ร่วม 3,000 คนและมีการเสียชีวิตมากกว่า 20 คน แสดงในรูปกราฟการระบาด

จากข้อมูลองค์การอนามัยโลกและมีการถอดรหัสพันธุกรรมของผู้ป่วยในกัมพูชาที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานในการระบาดโรคนี้ จะเห็นว่าเป็นสายพันธุ์ B.1.1.7 และเขียนไว้อย่างชัดเจนในข้อมูลขององค์การอนามัยโลก

"หมอยง"โชว์ผลถอดรหัสพันธุกรรมโควิดมาจากเขมร

จากการถอดรหัสพันธุกรรมของสายพันธุ์ทองหล่อแสดงให้เห็นว่าพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์ทองหล่อ อยู่ในกลุ่มเดียวกับสายพันธุ์ที่ระบาดในกัมพูชา มีความเหมือนกันและเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อังกฤษที่ศูนย์ไวรัส ได้ถอดรหัสพันธุกรรมโควิด-19 จากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศอังกฤษและยุโรป อเมริกา ความเหมือนของสายพันธุ์จะเหมือนกับสายพันธุ์ที่แยกได้จากกัมพูชามากกว่าการระบาดในกัมพูชาเกิดขึ้นก่อนในประเทศไทย โดยเกิดตั้งแต่เดือน ก.พ. และระบาดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันประกอบกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์โดยการถอดรหัสพันธุกรรม มีความเหมือนกัน การระบาดในประเทศไทยเกิดขึ้นหลังจากการระบาดในกัมพูชามานานกว่า 6 สัปดาห์ เมื่อเรียบเรียงตามระยะเวลา ความเป็นไปได้จึงน่าจะเป็นจากกัมพูชามาประเทศไทย มากกว่าประเทศไทยไปกัมพูชา ส่วนจะมาด้วยวิธีใด ก็คงจะต้องมีการหากันต่อไป และอยากให้
เด็กไทย สนใจเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาเพื่อใช้ตอบคำถามที่สงสัย

 

ข้อมูล FB : นพ.ยง ภู่วรวรรณ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube