fbpx
Home
|
ทั่วไป

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม71รายสะสม26,441ราย

Featured Image
ศบค. เผย พบผู้ป่วยโควิดใหม่ 71 ราย รวมสะสม 26,441 รักษาหายแล้ว 25,777 เสียชีวิต 85 ศพ

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยตัวเลขสถานการณ์ประจำวันจันทร์ ที่ 8 มีนาคม 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 115 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 71 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,441 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 25,777 ราย รักษาอยู่ 579 ราย เสียชีวิตรวม 85 คน

ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 48 ราย จากการค้นหาเชิงรุก/โรงงาน 7 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 41 ราย และ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 23 ราย

โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ตามพื้นที่เสี่ยง จังหวัดสมุทรสาครมีผู้ป่วยรายใหม่ 40 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 16,467 ราย กรุงเทพมหานคร พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 992 ราย และจังหวัดอื่นๆมีผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,658 ราย

ศบค.เคาะผ่อนคลายมาตรการ3 ระยะ สอดคล้องกับการฉีดวัคซีน เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด – 19 หรือ ศปก.ศบค. จะมีการหารือการกำหนดมาตราการผ่อนคลายในภาคส่วนอื่นๆ เช่นภาคสังคม และภาคเศรษฐกิจ ซึ่งต้องมีการขับเคลื่อน โดยนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. เน้นย้ำให้มีการเตรียมผ่อนคลายมาตรการให้มากขึ้นโดยจะมีการประชุมในวันที่ 15 มี.ค. นี้

โดยจะมีมาตรการกำหนด 3 ระยะ คือ วันที่ 1 เม.ย. 2564 จะมีการนับจำนวนคนฉีดวัคซีนที่มีการเริ่มฉีดไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเสนอผ่อนคลายมาตรการให้สอดคล้องกับการฉีดวัคซีน รวมถึงการปรับพื้นที่สีจังหวัดต่างๆ และมีการหารือให้ชาวต่างชาติซึ่งจะผ่อนคลายให้เข้าสู่ราชอาณาจักรรวมถึงเรื่อง State Quarantine และการกักตัว ซึ่งจะมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 และจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งถึงมาตราการในระยะที่2 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย. 2564 และในระยะที่สามที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค. 2564 โดยรายละเอียดต่างๆเตรียมเสนอในวันที่ 15-19 มี.ค. นี้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube