fbpx
Home
|
ทั่วไป

สธ. เผย โควิด “เดลตาพลัส” ยังไม่ต้องจับตาเป็นพิเศษ

Featured Image
รมต.ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย โควิดสายพันธุ์ “เดลตาพลัส” ยังไม่มีนัยยสำคัญที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ

วันนี้ 26 ต.ค. 64 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงประเด็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้ และความคืบหน้าการเฝ้าระวังสายพันธุ์และกลายพันธุ์โควิด-19 ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า รัฐบาลมีความแน่วแน่อย่างมากต่อการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดย 46 ประเทศ สามารถเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ตรวจ rt pcr ปรากฏผลเป็นลบ และนอนพักที่โรงแรม 1 คืน ทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง หากผลเป็นลบก็สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ โรงแรมที่นักท่องเที่ยวพักกับสนามบินจะต้องอยู่ไม่ห่างกันเกิน 2 ชม.

ดร.สาธิต กล่าวว่า กรณีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย หากเกิดความสงสัยหรือเกิดความเสี่ยง และจำเป็นต้องตรวจหาการติดเชื้อ นักท่องเที่ยวจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง เนื่องจาก รัฐบาลไทยไม่มีนโยบายดังกล่าวรองรับ

อย่างไรก็ตาม จากการเฝ้าติดตามสถานการณ์ พบว่าเชื้อโควิด-19 ขณะนี้เริ่มลดระดับความรุนแรงลงแล้ว แม้ว่าจะยังสามารถแพร่กระจายได้อยู่ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า สุดท้ายแล้วโควิด-19 จะกลายเป็นเพียงโรคประจำถิ่น

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ระยะหลังประเทศไทยพบโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ประมาณ 98.6% และพบสายพันธุ์เบต้าเล็กน้อย ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สำหรับรายงานการตรวจพบสายพันธุ์ alpha+ (E484k) ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเป็นผู้ต้องขัง จ.เชียงใหม่ 2 ราย จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จำนวน 16 ราย โดยสายพันธุ์ alpha+ (E484k) ที่พบในไทยมีลักษณะทางพันธุกรรมใกล้เคียงกับเชื้อที่ระบาดอยู่ในประเทศกัมพูชา

ทั้งนี้ ข้อมูลโลกพบสายพันธุ์อัลฟากลายพันธุ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ ธันวาคม 2563 ซึ่งการกลายพันธุ์ชนิด E484k บน spike สามารถพบได้ในสายพันธุ์เบต้าและแกรมมาเช่นเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ใช่การกลายพันธุ์ใหม่

สำหรับสายพันธุ์เดลตาพลัส (ay.4.2) ในอังกฤษและแถบยุโรป มีความกังวล เนื่องจากอำนาจการแพร่กระจายเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าปกติ 10-15 % ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ ay.4.2 ในประเทศไทยแต่อย่างใด

โดยสายพันธุ์ใหม่ที่พบในประเทศไทย คือ ay.1 delta+k417n พบผู้ป่วย 1 ราย จ.กำแพงเพชร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า k417n จะเกิดผลรุนแรงอย่างไร โดยยังไม่มีหลักฐานอันประจักษ์ และยังไม่ถูกขึ้นบัญชีว่าจะมีปัญหา ทั้งนี้ กำลังกังวลว่าอาจจะอยู่ในสายพันธุ์เบต้าเช่นเดียวกัน สรุปได้ว่าขณะนี้ประเทศไทยพบสายพันธุ์อัลฟาพลัส 18 ราย เดลต้าพลัส ay1 1ราย ส่วนเดลต้าพลัส 4.2 ยังไม่พบ

ดร.สาธิต กล่าวว่า สำหรับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในโรคระบาดย่อมมีอยู่เป็นปกติ สำหรับสายพันธุ์เดลตาพลัสขณะนี้ ตามหลักการหากมีการกลายพันธุ์ที่เป็นนัยยะสำคัญ ได้แก่ อาการของโรครุนแรงขึ้น ติดต่อกันง่ายขึ้น ดื้อยาหรือวัคซีน จะถือว่าเป็นการกลายพันธุ์ที่มีนัยยะสำคัญ แต่ขณะนี้ยังไม่ถือว่ามีนัยยะสำคัญที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการกลายพันธุ์ของไวรัสดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขจะเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และไม่ปกปิดข้อมูล โดยอยากให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube