โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก 2,191 คน พบปัญหาเล็กน้อยระบบลงทะเบียนทั่วประเทศล่ม ก่อนกลับมาใช้ได้ตามปกติ
บรรยากาศฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก ของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา กำหนดการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน ในวันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โดยแบ่งตามช่วงเวลา 6 ระดับชั้น ดังนี้ ระดับชั้นม.1 เวลา 09.0-10.00 น. ระดับชั้น ม. 2 เวลา 10.00-11.00 น. ระดับชั้น ม.3 เวลา 11.00-12.00 น. ระดับชั้น ม.4 เวลา 12.00-13.00 น. ระดับชั้น ม.5 เวลา 14.00-15.00 น. และระดับชั้น ม.6 เวลา 15.00-16.00 น. รวมนักเรียนที่แสดงความจำนงและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วยความสมัครใจ ทั้งหมด 2,191 คน
โดยนักเรียนและผู้ปกครองทยอยเข้ามาตามช่วงเวลาอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทางโรงเรียนจัดพื้นที่โซนโรงอาหารให้ผู้ปกครองพักคอย ส่วนนักเรียนที่มาถึงต้องมาก่อนเวลา 30 นาที ตามรอบเวลาที่กำหนด เพื่อเช็กชื่อและชี้แจงขั้นตอนการฉีดวัคซีน แล้วยื่นเอกสาร โดยผู้ปกครองต้องลงนามในเอกสาร (หากเอกสารไม่ครบ ไม่สามารถเข้ารับการฉีดได้) คือ ให้ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของนักเรียน เอกสารแสดงความประสงค์ของผู้ปกครองให้บุตรหลานฉีดวัคซีนไฟเซอร์ และแบบคัดกรองก่อนรับบริการฉีดวัคซีน covid-19 สำหรับนักเรียน
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา ได้ทำหนังสือขออนุญาตฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับนักเรียนชั้น ม.1-6 ไปถึงผู้ปกครอง เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ covid 19 ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็วประเทศไทย จึงมีนโยบายให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าเพื่อลดความรุนแรง และการเสียชีวิตจากการป่วยด้วย โรคติดเชื้อไวรัส covid ในสถานศึกษา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งวันเช้า อาจมีช่วงล่าช้าในการลงทะเบียนไปบ้าง เนื่องจากระบบลงทะเบียนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศล่ม แต่ก็สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยทางโรงเรียนจัดสถานที่การฉีดวัคซีนไว้เป็นสัดส่วน ตั้งแต่จุดลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดอุณหภูมิ วัดความดัน จุดฉีดวัคซีน และจุดพักสังเกตอาการ ที่บริเวณโดมข้างสนามฟุตบอลซึ่งเป็นพื้นที่โปร่ง โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
