fbpx
Home
|
ทั่วไป

สธ. คาด เด็ก 3-11 ปี มีวัคซีนฉีดปี 65

Featured Image
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียนได้ประโยชน์ ผปค.อย่าห่วง เตรียมฉีดวัคซีนให้เด็ก 3-11 ปี ปีหน้า

 

นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงการณ์อัปเดตสถานการณ์วัคซีนโควิด 19 และการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กนักเรียน ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 วันนี้ ยอดฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 281,070 โดส รวมทั้งสิ้น 55,150,481 โดส เฉลี่ยแล้วมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก คิดเป็นร้อยละ 45.8 ผู้ได้รับวัคซีนเข็มสอง คิดเป็นร้อยละ 28.7 และผู้ได้รับวัคซีนเข็มสาม คิดเป็นร้อยละ 2.0

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้วางแผนคาดประมาณจำนวนวัคซีนที่จะให้บริการในปี 65 แล้ว โดยคาดว่าเข็ม 1 จำนวน 6 ล้านโดส สำหรับเด็ก 3-11 ปี เข็ม2 จำนวน 8 ล้านโดส สำหรับผู้ยังไม่เคยได้รับวัคซีนในปี 64 และ 6 ล้านโดส สำหรับเด็ก 3-11 ปี และเข็ม 3 จำนวน 66 ล้านโดส สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 86 ล้านโดส

สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 12 – 17 ปี ในวันนี้ที่เริ่มดำเนินการเป็นวันแรกนั้น รูปแบบการให้บริการจะผ่านสถาบันการศึกษาเป็นสำคัญ อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนสอนศาสนา และโรงเรียนทหาร โดยหากนักเรียนในสถาบันดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี สามารถอนุโลมให้เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ได้เช่นกัน

สำหรับอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่อาจเกิดจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ นพ.โอภาส ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่มักพบในเด็กผช. อายุ 12 – 17 ปี ในวัคซีนเข็ม 2 หลังจากการฉีดวัคซีน 1 – 5 วัน ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายได้เอง

สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กนักเรียน อายุ 12-17 ปี ว่าสามารถฉีดสองเข็มเหมือนกันทั้งเด็กชายและเด็กหญิงได้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยืนยันว่าเข็มแรกยังคงให้ฉีดเหมือนกันไปก่อน แต่เข็มต่อไปสำหรับเด็กผู้ชายจะทำการประเมินอีกครั้ง ส่วนเด็กหญิงยังมั่นใจว่าปลอดภัย ยืนยันให้ฉีดได้ทั้งสองเข็ม อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการฉีดวัคซีนจะสร้างประโยชน์มากกว่าผลข้างเคียง พร้อมย้ำว่าผู้ปกครองไม่ต้องห่วง

สำหรับการเปิดเทอมเรียนแบบออนไซต์บนพื้นที่แดงเข้มนั้น ถือว่ายังเป็นเรื่องที่น่าห่วง เนื่องจากโรงเรียนเป็นอีกสถานที่ที่สามารถเกิดการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว โดยหากมีการเปิดเทอมแบบออนไซต์ ขอให้มีการเคร่งครัดในมาตรการการป้องกัน เว้นระยะห่าง ล้างมือ รวมทั้งระบบระบายอากาศ ส่วนบุคลากรทางการศึกษาทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับโรงเรียนประจำ อาจจะต้องขอให้มีการตรวจ atk ทั้งเด็กนักเรียนและบุคลากรเป็นระยะด้วย

สำหรับวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 3-11ปี ที่จะฉีดในปี 65 นั้น จะต้องหารือกับทางอย.ประเทศไทยก่อน โดยขณะนี้มีวัคซีนหลายตัวที่กำลังยื่นข้อมูลไปเพื่อให้อย.พิจารณา คาดว่าไม่เกินปีหน้าจะมีวัคซีนฉีดให้เด็กอายุ 3-11 ปีแน่นอน

อย่างไรก็ตาม วันพุธที่ 6 ต.ค. นี้ จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอีกจำนวน 1.5 ล้านโดส และสัปดาห์หน้าอีก 1.5 ล้านโดส โดยจะทำการกระจายวัคซีนทันทีหลังจากทำการตรวจสอบวัคซีนเสร็จสิ้น

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube