fbpx
Home
|
ทั่วไป

ปลัด สธ. ยันวัคซีนสูตรไขว้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ

Featured Image
ปลัด สธ. นำทีมยืนยัน วัคซีนสูตรไขว้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และฉีดได้จำนวนมาก เผย เตรียมส่งงานวิจัยตีพิมพ์ระดับโลก แต่หากรอก่อนแล้วค่อยฉีด ถือว่าโง่

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงหลังฝ่ายค้านอภิปรายกรณีที่มีความกังวลในการฉีดวัคซีนไขว้

โดย นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า กรณีที่มีการอภิปรายว่าการไขว้วัคซีน คือ เข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นแอสตราเซเนกา งานวิจัยยังไม่ได้ตีพิมพ์ แต่กำลังส่งตีพิมพ์ ดังนั้น การบริหารในสถานการณ์เช่นนี้ หากจะรอให้มีการตีพิมพ์งานวิจัยก่อน แล้วถึงนำมาบริหารจัดการถือว่าโง่มาก หากถามว่าทำไมถึงยังต้องซื้อวัคซีนซิโนแวค ก็สามารถตอบกลับได้ง่ายๆ ว่า ผลวิจัยบอกว่าการสู้กับเดลต้าในปัจจุบันนั้น การใช้ซิโนแวค 1 เข็มบวกแอสตราเซเนกา 1 เข็มให้ผลพอๆ กับการฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็ม ซึ่งหากจะรอแค่แอสตราเซเนกาอย่างเดียว ต่อให้ได้มาเดือนละ 10 ล้านโดสก็สามารถฉีดได้เพียงแค่เดือนละ 5 ล้านคน แต่หากฉีดแบบสูตรไขว้จะสามารถฉีดคนได้มากกว่าเดิมสองเท่า นี่เป็นตรรกะพื้นฐานง่ายๆ หากคิดไม่ออกตนก็ไม่รู้ว่าจะบริหารบ้านเมืองไปได้อย่างไร จึงมีความจำเป็นที่ต้องซื้อวัคซีนซิโนแวคมาเพิ่ม พร้อมย้ำว่าการฉีดไขว้มีความปลอดภัยและอย่าพูดให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งนี้ ในการตัดสินใจของกระทรวงสาธารณสุขในยุคที่มีวิกฤตต้องเร็ว หากจะลีลาและต้องรอเอกสารอาจจะทำให้ชีวิตประชาชนเสียหายมากกว่า

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับสายพันธุ์เดลต้าเป็นเชื้ออุบัติใหม่ที่รู้จักเพียง 3-4 เดือน ความรู้ใหม่ๆ จึงเปลี่ยนไปตลอดเวลา การบริหารจัดการสถานการณ์ก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน และยืนยันว่า เมื่อเจอสายพันธุ์เดลต้าทุกวัคซีนประสิทธิภาพลดลงหมด แต่ก็ยังมีประโยชน์ในการลดการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยอยากทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของการฉีดไขว้ ซึ่งการค้นพบของแพทย์ไทยพบว่าภูมิคุ้มกันสูงกว่าปกติที่ใช้กัน และทำให้ฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น ส่วนข้อกังวลว่าจะปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่า วัคซีนที่ใช้ 4-5 ยี่ห้อในประเทศไทยได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และ อย.

ซึ่งตอนนี้ฉีดไปแล้ว 32 ล้านโดส ยังไม่มีการเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ขณะที่การฉีดสูตรไขว้ที่ต่อไป จะใช้เป็นสูตรหลัก คือ เข็มแรกซิโนแวค เข็มสองแอสตราเซเนกา ฉีดไปแล้วมากกว่า 1.5 ล้านคน ย้ำว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเช่นกัน ขอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ และกลไกการพัฒนาสูตรวัคซีนกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้คิดโดยลำพัง มีคณะกรรมการ มีผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านโรคติดเชื้อ ด้านวัคซีน และด้านระบาดวิทยา มาประชุมและสรุปเพื่อจะปรับให้ประชาชน และอ้างอิงทางหลักฐานวิชาการ ข้อมูลที่เรามีและข้อมูลทั่วโลกด้วยความรอบคอบและรอบด้านเป็นขั้นตอน จนมีมติให้นำสูตรนี้มาใช้กับประชาชน

ขณะ นพ.มานัส กล่าวว่า เรื่องการจ่ายยาและการรักษาในละรอก 3 อาจจะพบผู้ป่วยรุนแรงและเสียชีวิตมากขึ้น โดยแนวทางรักษาเราจะให้ความสำคัญเรื่ององค์ความรู้ ยาใช้รักษา และเพิ่มการเข้าถึง มีการปรับการรักษาให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้มากขึ้น เช่นกลุ่มไม่มีอาการก็ให้ใช้ยาฟ้าทะลายโจร รวมถึงกลุ่มที่มีความเสี่ยงก็จะหรับปรุงให้เข้าถึงยาได้มากขึ้น ส่วนเรื่องเตียงที่ไม่พอก็มีการนำเสนอเรื่องการแยกกักตัวที่บ้านและที่ชุมนุม รวมทั้งศูนย์พักคอยใน กทม. และได้รับความร่วมมือของทุกหน่วยงานและภาคประชาสังคมที่มาช่วยดูแล สำหรับผู้ที่มีอาการก็จะได้รับยาตั้งแต่ได้ทราบผลการตรวจ ATK และจะได้รับอุปกรณ์ติดตามอาการ อาหาร 3 มื้อ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยออกไปนอกบ้าน ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วขึ้น รวมทั้งในช่วงนี้ได้สำรองยาไปที่โรงพยาบาลต่างๆ และพื้นที่ต่างๆที่รับผิดชอบผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้านและที่ชุมนุม ทำให้จ่ายยาได้เร็วขึ้น และทางกรมการแพทย์จะมีการติดตามสถานการ์และปรับปรุงวิธีการรักษาให้สอคคล้องกับสถานการ์ต่อไป

ขณะเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ ยืนยันว่า มีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ตั้งแต่มีอาการ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง และไม่ให้เป็นภาระที่ผู้ป่วยต้องไปอยู่ในโรงพยาบาล และอยากยืนยันกับประชาชนว่ากระทรวงสาธารณสุขทำการต่อสู้โควิดในครั้งนี้ ด้วยการทำงานด้วยการบูรณาการทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการในหลายๆ รูปแบบ เพื่อป้องกันโรค การรักษา และการฉีดวัคซีนอย่างครบวงจร

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube