fbpx
Home
|
ทั่วไป

เรือนจำพิเศษธนบุรีพบนักโทษติดโควิดเพิ่ม1,104ราย

Featured Image
ราชทัณฑ์ลุยตรวจโควิด-19 ในเรือนจำพิเศษธนบุรี พบนักโทษติดเพิ่ม 1,104 ราย

กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำและทัณฑสถานพื้นที่เสี่ยง (เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 1,104 ราย ในเรือนจำพิเศษธนบุรี

โดยทั้งหมดที่ตรวจพบเพิ่ม เป็นผู้ต้องขังที่ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว คือไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย และได้ดำเนินการรักษาด้วยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เพื่อต้านไวรัสเป็นที่เรียบร้อยพร้อมเร่งดำเนินการตรวจเชื้อซ้ำในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อเพื่อยืนยันผล ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกัน

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ประสานโรงพยาบาลแม่ข่าย การเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และสำรองยาที่ใช้รักษาให้เพียงพอ พร้อมการดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในด้านอื่นเพื่อป้องกันเชื้อ ทั้งจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ และการติดเชื้อจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ รวมถึงเร่งจัดหาวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง

โดยขณะนี้ เริ่มฉีดวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำส่วนใหญ่แล้ว สำหรับผู้ต้องขังจะเริ่มต้นในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว จนครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายในที่สุด

กรมราชทัณฑ์ ยืนยันไม่มีนโยบายสั่งปิดข้อมูลโควิดแพร่ระบาดในเรือนจำ กรณี”รุ่ง โพสต์ระบุพ่อ-แม่ ติดโควิดจากตนเองที่ได้รับเชื้อจากในเรือนจำ”

กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจง “กรณีนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “บิดาและมารดาติดเชื้อโควิด – 19 จากตนที่ได้รับเชื้อมาจากในเรือนจำโดยระบุว่าผู้ต้องขังและนักโทษไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 มากน้อยเพียงใดในเรือนจำ”

กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 จริงในหลายเรือนจำ แต่กรมราชทัณฑ์ยังคงดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีของนางสาวปนัสยานั้น ทางกรมราชทัณฑ์ ได้รับตัวนางสาวปนัสยา เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 โดยควบคุมภายในห้องกักโรคของแดนแรกรับ และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยการ SWAB ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ผลไม่พบเชื้อ และทำการตรวจหาเชื้อครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 64 ผลไม่พบเชื้อเช่นกัน ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. 64 ได้อนุญาตให้นางสาวปนัสยา ลงจากห้องกักโรคมาอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นภายในแดนแรกรับจนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 6 พ.ค. 64

ทั้งนี้ ทางทัณฑสถานหญิงกลาง แบ่งการควบคุมเป็น 2 แดน คือ แดนแรกรับ ซึ่งเป็นแดนที่นางสาวปนัสยา ถูกควบคุมตัวอยู่มีผู้ต้องขังประมาณ 1,500 คน ได้ทำการตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง 100% เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 64 ภายหลังจากนางสาวปนัสยา ปล่อยตัวไป ไม่พบผู้ต้องขังแดนนี้ติดเชื้อ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้ต้องขังที่นอนห้องเดียวกันและใช้ชีวิตใกล้ชิดกับนางสาวปนัสยา จำนวน 4 คน ก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน

ส่วนแดนหนึ่ง คือ แดนผู้ต้องขังเด็ดขาดที่เกิดการระบาดของโรค ซึ่งมีผู้ต้องขังประมาณ 2,900 คน ทำการตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง 100% พบผู้ต้องขังติดเชื้ออยู่ในแดนนี้ จำนวน 1,039 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและได้ย้ายผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้มีนโยบายหรือสั่งการให้ปิดบังข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ในเรือนจำและทัณฑสถานแต่อย่างใด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube