ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ห่วงสถานการณ์โควิด หลังมีผู้ติดเชื้อรายวัน ชี้แนวโน้มติดเชื้อสูงขึ้นอีกในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วย ยังไม่ใช้ยาแรง สธ.จังหวัด ประเมินยังควบได้
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 หลังจาก จ.เพชรบูรณ์มีผู้ติดเขื้อรายวันโดยยอดผู้ป่วยถึงวันที่ 14 เม.ย. มีทั้งสิ้น 12 ราย และล่าสุดยังมีแนวโน้มจะยังผู้ติดเชื้อต่อเนื่องเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังน่าเป็นห่วงและแนวโน้มก็ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นรายวัน
อย่างที่เห็น โดยเฉพาะจากรายงานที่ได้รับคนที่สัมผัสหรือไปต่างจังหวัดด้วยกันกับผู้ป่วยยืนยัน กลุ่มคลัสเตอร์ที่ไป จ.ระยอง จะตรวจพบติดเชื้อเพิ่มเติมกันอีกหลายรายรวมทั้งเคสที่มีพ่อไปรับลูกและนั่งรถกลับบ้านที่หล่มสัก ซึ่งหลังจากลูกติดเชื้อต่อมาพ่อก็ตรวจเชื้อเช่นเดียวกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า วันนี้ (15เม.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจังหว้ดฯ โดยจะมีการหารือถึงมาตรการเพิ่มเติม อาทิ ประเด็นการหยุดซัมเมอร์ ฯลฯ ส่วนเรื่องการใช้การใช้ยาแรงโดยเฉพาะการล็อกดาวน์จังหวัดนั้น โดยสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถีงกับล็อกดาวน์ เนื่องจากทางสาธารณสุขจังหวัดฯ ประเมินว่าสถานการณ์ปัจจุบันนึ้ยังสามารถควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูแนวทางของ ศบค.ใหญ่ก่อนว่า จะมีการล็อกดาวน์จังหวัดเสี่ยงหรือไม่ เพราะจริงๆต้องล็อกที่ต้นเหตุก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ออกไปที่อื่น
นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข้อกังวลกรณีที่ผู้อยู่ในกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะทำให้มีชาวเพชรบูรณ์ติดเชื้อสูงพุ่งพรวดขึ้นไปอีกจึงเสนอให้ใช้ยาแรงว่า อันนี้น่าห่วงแน่นอนเพราะบางคนฝ่าฝืนและไม่กักตัวตามคำสั่งจังหวัด จึงไม่อยู่ความคาดการณ์และเตรียมมาตรการไว้แล้ว ซึ่งหลังสงกรานต์ยอดก็จะยังทรงตัวอยู่อย่างนี้ และหลังสงกรานต์ราว 7-14 วัน ก็จะเก็บพวกนี้ได้หมด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู้กับมาตรการใหญ่ของจังหวัดหากสถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อยังไม่เบาบางลงก็ต้องเข้มข้นขึ้นไปอีก วันนี้มีการยกร่างมาตรการขึ้นมา 3 ระดับของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยระดับ 1-3 ทุกระดับเข้มขึ้นจากเดิมทั้งนั้น แต่จะใช้ถึงระดับไหนเท่านั้นก็ขึ้นอยู่กับการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรค
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
