คนร้ายบุกยิงสังหารหนุ่มประวัติโชกโชนที่โคราช ตร.ไม่ตัดประเด็นทิ้ง ทั้งยาเสพติด และชู้สาว
ความคืบหน้า เหตุ คนร้าย บุกยิงนายยงยุทธ หรือ “แม็กซ์” ตรองชนะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.9 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จนเสียชีวิต เมื่อเวลา 22.50 น.คืนวันที่ 1 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา ที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ ม.9 ต. โชคชัย อ. โชคชัย จ. นครราชสีมา ในสภาพนอนหงายเสียชีวิตหน้าบ้านจัดสรรสร้างใหม่ ไม่มีเลขที่ มีบาดแผลที่ศีรษะ เลือดไหลนองพื้น ใกล้กันพบผ้าโพกหัว และปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย จำนวน 2 ปลอก และพบรอยกระสุนปืนที่ประตูหน้าบ้าน ทะลุเข้าฝาบ้าน 1 นัด ซึ่งนายไพโรจน์ เพาะกระโทก อายุ 29 ปี 78/1 ม.9 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อนผู้ตาย ระบุ เพิ่งกลับจากเที่ยวร้านคาราโอเกะด้วยกัน แล้วขับรถจักรยานยนต์แวะไปส่งที่หน้าบ้าน แต่มีรถยนต์เก๋งสีบรอนซ์ มาดักรอตะโกนเรียกถาม ก่อนจะลั่นปืนยิง จนต้องวิ่งหนีตาย แต่รถเก๋งขับตามไปชนแล้วยิงซ้ำ 4-5 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.บุญโปรด ประเสริฐศักดิ์ ผกก.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องขัดแย้งส่วนตัว ยาเสพติด และชู้สาว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี และเคยเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังมีความขัดแย้งกับหลายคน ซึ่งทุกอย่างเป็นสาเหตุได้ทั้งหมด ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว พร้อมทั้งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อดูพาหนะและเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายรายนี้แล้ว
ด้าน นางฐาปนีย์ หมู่กระโทก แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ส่วนตัวลูกชายเป็นคนดี แต่มักจะชอบดื่มสุรา เวลาเมาชอบโวยวายเสียงดัง ชาวบ้านก็จะรู้กันดี แต่ความจริงไม่มีอะไร ส่วนเรื่องยาเสพติดลูกชายก็อาจจะมีเสพเองบ้าง แต่ตนแน่ใจว่า ลูกชายไม่ได้ขาย เพราะหากเป็นคนขายยาจะต้องมีเงิน ตนต้องคอยส่งเงินให้ลูกใช้จ่ายทุกวัน วันละ 200-500 บ.เพราะลูกไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเฉยๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า ลูกมีประวัติเคยติดคุกมาหลายครั้ง ตั้งแต่อายุ 16-17 ปี ส่วนมากเป็นคดีทะเลาะวิวาท ไม่มีคดียาเสพติดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจมากเป็นลูกชายคนเดียวแต่กลับมาเสียชีวิตอย่างนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
