fbpx
Home
|
ภูมิภาค

‘ไทยศรีวิไลย์’ ลงพื้นที่ จ.ยะลา ชูนโยบายสนับสนุนชาวมุสลิม

Featured Image
‘ไทยศรีวิไลย์’ ลงพื้นที่ จ.ยะลา ชูนโยบายสนับสนุนชาวมุสลิม เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ หนุนซอฟท์พาวเวอร์ยะลาในทุกๆด้าน

 

 

พร้อมรับเรื่องร้องเรียนชาวบ้านที่มีปัญหาที่ดิน ใน อ.บันนังสตา – ‘ลูกศร’ เผย ‘ไทยศรีวิไลย์’ พร้อมสำหรับการรับใช้ประชาชนในทุกพื้นที่ เน้นย้ำ ยางไม่ต่ำกว่า 80 ต่อกิโล และ ปาล์มไม่ต่ำกว่า 7.50 บาท

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค, นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกพรรคฯ นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ จ.ยะลา

 

 

 

 

 

เพื่อพบปะประชาชนและแนะนำนโยบายของพรรค โดยมีประชาชน พ่อค้าแม่ค้า ให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง พร้อมกันนี้ ยังได้แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ได้แก่ เขต1 นายมนัส ป.ปาน นายนิรัตน์ เสมอภาพ (นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดยะลา) เขต 2 : นายอับดุลเราะมาน อุมาร์ และ เขต 3 : นายฟาอิซ บัยดูรี่ และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จังหวัดยะลา คือ ดร.กูนรดินทร์ วงศ์วังษา

 

 

 

 

นางสาว อรศศิพัชร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ถือเป็นการแสดงให้ประชาชนคนไทยทุกคนเห็นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์พร้อมสำหรับการรับใช้ประชาชนในทุกพื้นที่ โดยในวันนี้ ทางพรรคฯ ได้รับเกียรติจากทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เพื่อมาเยี่ยมชมมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา(มัสยิดเราฎอตุลยันนะห์) ถนนสิโรรส ตำบลสะเตง เทศบาลนครยะลา ทั้งนี้ ทางพรรคฯ ได้เข้าร่วมหารือกับบรรดาอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น และคณะกรรมการของมัสยิดฯ รวมทั้ง ได้พูดคุยกับประชาชนที่มาร่วมกันทำละหมาดวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางศาสนาอิสลาม

 

 

 

 

ซึ่งทางนายมงคลกิตติ์ ได้ชี้แจงถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องชาวมุสลิม เช่น นโยบายหารายได้จาก vat7% นอกระบบ 7 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินมาเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้ทุพพลภาพ 5,000 บาท/เดือน การกระตุ้นนโยบายอัดฉีดเงินจากรากหญ้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยมีการปล่อยกู้ครัวเรือนละ 150,000 บาท 22 ล้านครัวเรือน วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01% ผ่อน 4 ปี ไม่คิดเครดิตบูโร มีประกันค้ำวงเงิน จะทำให้ประชาชน สามารถนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ ชำระหนี้ผ่อนในระบบ เหลือเงินหมุนเวียนธุรกิจค้าขาย

 

 

 

ทำให้เศรษฐกิจทั้งประเทศเคลื่อนไปได้ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม คือ การให้กู้โดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่จะนำมาตรการอื่นมากำกับดูแลแทน การดูแลราคายางพารา ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 80 บาท/กิโลกรัม ราคาปาล์มทะลาย 7.5 บาท/กิโลกรัม ตลอด 4 ปีหากได้รับโอกาสเป็นพรรคร่วมรัฐบาล กาลดเก็บภาษีค่าน้ำมันเบนซีน-ดีเซล ไม่เกิน 25 บาท/ลิตร ก๊าซหุงต้ม 15 กก. ไม่เกิน 250 บาท และสนับสนุนในการให้ประชาชนได้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ไม่เกิน 2 แสนบาท

 

 

 

 

โดยจะให้สิทธิ์สำหรับคนที่ยังไม่เคยไป และได้รับสิทธิ์เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต รวมทั้ง ยังมีการผลักดันให้มีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัด เพื่อนำเงินรายได้เข้ามามากขึ้น และจะผลักดันในการดำเนินยกเลิก พรก ฉุกเฉินฯ เขตพื้นที่ เพื่อให้การควบคุมดูแลของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อเป็นการผ่อนคลายในการสร้างบรรยากาศเพื่อการท่องเที่ยวและการลงทุนภายในพื้นที่

 

 

 

นางสาว อรศศิพัชร์ กล่าวต่อว่า ต่อมาทางพรรคฯ ได้เยี่ยมชมร้านศรียะลาบาติก ซึ่งเป็นร้านขายผ้าบาติกที่มีชื่อเสียง และมีการนำภูมิปัญญาดั้งเดิมและพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยเข้ากับตลาดปัจจุบัน โดยได้มีการพูดคุยกับ อ.ปิยะ สุวรรณพฤกษ์ ซึ่งเป็นประธานกลุ่มศรียะลาบาติก โดยทาง อ.ปิยะ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกที่เห็นอยู่นั้น เป็นการนำภูมิปัญญาตามแบบบรรพชนผสมผสานระหว่างสีธรรมชาติกับการทอผ้าปะลางิง และ การออกแบบลายผ้ามาใช้อย่างลงตัว โดยมีเอกลักษณ์ของลายทอผ้า คือ การนำลวดลายโบราณมาประยุกต์ อาทิ ลวดลายมัสยิดโบราณ กระเบื้องโบราณ แม่พิมพ์ขนมโบราณ การละเล่นโบราณ นกเขา นกกรงหัวจุก

 

 

ขณะที่การแกะแม่พิมพ์ไม้ ก็ใช้ไม้ขาวดำที่ใช้ทำกรงนก เพราะมีคุณสมบัติที่แข็งและเหนียว ทำให้แกะเป็นลายเส้นเล็กๆได้ ซึ่งทางพรรคฯ ได้มีข้อแนะนำและพร้อมช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกที่เป็นลายเส้นของท้องถิ่นก้าวไปสู่ตลาดภายในประเทศและตลาดโลก จากนั้น ได้ลงพื้นที่ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน กรณีที่ดินถูกนายทุนรุกที่ไปเป็นของนายทุน

 

 

ทั้งๆ ที่เป็นที่ดินแต่ดั้งเดิมของชาวบ้าน แต่กลับมีการปล่อยทิ้งร้างเนื่องจากภัยของการก่อเหตุความไม่สงบนับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ซึ่งขณะนี้นายทุนพยายามฉวยโอกาสในการรุกล้ำที่ดินของชาวบ้านหรือบีบบังคับให้ยอมขายในราคาถูกๆ โดยอ้างว่า เป็นที่ดินที่ใม่มีเอกสารสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้น ทางพรรคฯ จึงได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว และจะรีบนำมาเผยแพร่ให้กับสาธารณชน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไปด้วย

“จังหวัดยะลาถือเป็นพื้นที่ที่พรรคไทยศรีวิไลย์ ตั้งใจมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม จนได้ชื่อว่า เมืองแห่งศาสนา ที่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างสันติ และมีของดีมากมายที่สามารถผลักดันเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของจังหวัดได้ เช่น กบภูเขาเบตง เป็นกบที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในป่าเบญจพรรณที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีขนาดใหญ่กว่ากบทั่วไป

 

 

ซึ่งนิยมนำมาผัด หรือทอดกระเทียมพริกไทย หรือนำมาใส่ในโจ๊กแทนเนื้อหมู ที่เรียกกันว่า โจ๊กกบ ผลไม้นานาชนิด เช่น กะท้อน ทุเรียน ส้มโชกุน ลองกอง จำปาดะ ซึ่งมีผลผลิตจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้มีการดัดแปลงพัฒนาให้มีมูลค่าสูงกว่าที่ควร และอาหารพื้นถิ่นต่างๆ เช่น ไก่สับเบตง หมี่เบตง เคาหยก ติ่มซำ เป็นต้น เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่พรรคไทยศรีวิไลย์ จะดำเนินการผลักดันให้สามารถเผยแพร่ไปยังทั่วโลก ส่วนนโยบายที่สำคัญที่ได้บอกกล่าวกับทาง อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น คณะกรรมการของมัสยิดฯ และชาวมุสลิม ก็คือ การสนับสนุนให้ผู้ที่ไม่เคยไปประกอบพิธีฮัจย์ที่กรุงเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

 

 

ได้ปฏิบัติตามแบบอย่างมุสลิมที่ดี คือ การสนับสนุนเงิน 200,000 บาท เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการไปร่วมพิธี ซึ่งถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต รวมทั้ง การที่จะเสนอยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะกระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวและการลงทุน และได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับที่ดินทำกินของชาวบ้าน อ.บันนังสตา ซึ่งเป็นกรณีที่นายทุนพยายามเอารัดเอาเปรียบ โดยอาศัยเหตุการณ์ความไม่สงบมาเป็นเครื่องมือบีบบังคับชาวบ้านให้ขายที่ดินทำกิน ซึ่งทางพรรคจะได้เสนอทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องต่อไป ” นางสาว อรศศิพัชร์กล่าว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube