ดันอำเภอครบุรีสู่เมืองผลไม้ต้นน้ำมูลโคราช
ดันอำเภอครบุรีสู่เมืองผลไม้ต้นน้ำมูลโคราช เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 70 จะปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก
อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ถือเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกมันสำปะหลังมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 70 จะปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก รวมถึงพืชไร่อื่นๆ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวที่เป็นไปตามแนวโน้มและทิศทางความต้องการของตลาด ส่งผลให้เกิดการเพาะปลูกตามๆ กันจนเป็นผลให้ตลาดขาดความสมดุล ตามมาด้วยสินค้ามากเกินความต้องการและราคาตกต่ำ
แต่มาในช่วงหลัง มีเกษตรกรหลายรายที่คิดใหม่ทำใหม่ ทดลองหันมาปลูกไม้ผลเพิ่มมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ขนุน ซึ่งเป็นพืชที่เพาะปลูกค่อนข้างง่าย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องด้วยด้วยสภาพของดินและความอุดมสมบูรณ์ของน้ำที่มีอยู่ทั้งบนผิวดิน อย่างเขื่อนสองเขื่อน คือ เขื่อนมูลบน และเขื่อนลำแชะ ซึ่งถือเป็นสองเขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงน้ำใต้ดินที่มีอยู่แทบทั่วอำเภอ จึงทำให้เกษตรกรสามารถปลูกไม้ผลได้แทบทุกชนิด ทั้งเงาะ มังคุด ลองกอง มะไฟ จนถึงทุเรียน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากซึ่งรู้จักกันในชื่อทุเรียนครบุรี ในขณะนี้
ไม่เว้นแม้แต่พืชจากต่างประเทศอย่างอินทผลัม พื้นที่อำเภอครบุรีก็ยังสามารถทำการเพาะปลูกได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นที่ไร่ดังใหม่ ของนายบุญลือ ดังใหม่ วัย 52 ปี บ้านจระเข้หิน ต.จระเข้หิน ที่กำลังออกผลผลิตเหลืองอร่ามเต็มต้น ทั่วพื้นที่กว่า 30 ไร่ รวมกว่า 700 ต้น ขณะนี้มีอินทผลัม รุ่นแรกและรุ่นที่ 2 ที่ปลูกไว้กว่า 200 ต้น ได้เริ่มให้ผลผลิตเหลืองอร่ามเต็มสวน ซึ่งเป็นอินทผลัมที่มีคุณภาพ รสชาติหวานกรอบ ปลอดสารเคมี และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
โดยเมื่อปีที่แล้วอินทผลัมสวนนี้ทำรายได้เข้าสู่สวนมากกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียวขณะที่ปีนี้เกิดฝนตกชุกต่อเนื่องทำให้อินทผลัมภายในสวน เจริญเติบโตเต็มที่ ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบเท่าตัว และด้วยอายุที่มากขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผลผลิต และรสชาติของอินทผลัมดียิ่งขึ้นด้วย ปีนี้มีอินทผลัมทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ที่สามารถเก็บผลผลิตได้แล้วประมาณ 200 ต้น คาดว่าจะได้ผลผลิตประมาณ 10 ตัน จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 250 – 300 บาท ที่หน้าสวน ประเมินมูลค่าผลผลิตในปีนี้ประมาณ 2.5 ล้านบาท
ล่าสุดจากข้อมูลของทางสำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี พบว่ามีเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกอินทผลัมแล้ว กว่า 100 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่น้อยกว่า 250 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี กล่าวว่า อินทผลัม ถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นในพื้นที่อำเภอครบุรี และจะเป็นอีกพืชหนึ่งที่จะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมาได้ ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่อำเภอครบุรีมีภูมิประเทศที่เหมาะสมในการทำสวน สามารถเพราะปลูกผลไม้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ขนุน เงาะ ลำไย มังคุด และอีกหลากหลายประเภท
รวมถึงพืชไร่ที่สำคัญอย่างมันสำปะหลัง อ้อย และ ข้าว อีกทั้งยังมีความได้เปรียบทั้งสภาพดินและน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีเขื่อนต้นน้ำมูลในพื้นที่ถึง 2 เขื่อน คือเขื่อนลำแชะ และเขื่อนมูลบน ในห้วงที่ผ่านมาไม่นาน ทางอำเภอก็ได้มีการผลักดันทุเรียนต้นน้ำมูลออกสู่ตลาดและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
และอินทผลัมนี้ทางอำเภอก็จะทำการผลักดันเข้าสู่พืชเศรษฐกิจต้นน้ำมูลต่อไป เพื่อสร้างความหลากหลายและโชว์ศักยภาพของพื้นที่อำเภอครบุรี เพื่อให้อำเภอครบุรีเป็นเมืองแห่งผลไม้ของจังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืนต่อไปด้วย
ทั้งนี้อำเภอครบุรี มีพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรทั้งหมดประมาณ 600,000 ไร่ แยกเป็นมันสำปะหลังประมาณ 200,000 ไร่ นาข้าวอีก 100,000 ไร่ ในขณะที่ไม้ผลกำลังเป็นพืชที่เริ่มมาแรงมีพื้นที่การเพาะปลูกแล้วกว่า 5,000 ไร่ ส่วนใหญ่จะเป็นขนุน ทุเรียนและเงาะ เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นเป็นพืชเชิงเดียวหลากหลายอย่างเช่นข้าวโพด อ้อยและยางพาราเป็นต้น

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





