หญิงนอนตายปริศนากลางทุ่งพ่อเชื่อลูกชายทรพีเป็นคนฆ่า ในเขตพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ ลุงระบุนิสัยเปลี่ยนหลังติดคุกกว่า 9 ปี
ความคืบหน้าคดีพบศพหญิงนอนตายปริศนากลางทุ่ง พ่อเชื่อลูกชายทรพีเป็นคนฆ่า ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านแท่น อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ ล่าสุด พ.ต.อ.วรวุฒิ เล็กสุนทร ผกก.สภ.บ้านแท่น หลังจากที่ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีคนพบศพผู้หญิงเสียชีวิตนอนอยู่กลางทุ่งนา บ้านหนองเม็ก จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.บ้านแท่น ประสาน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภูธรจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ตำบลหนองคู บ้านหนองเรือ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ซึ่งสถานที่จัดงานศพของ นางอรพิน ผู้เสียชีวิตบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าและมีญาติพี่น้องคนในหมู่บ้านมาร่วมงาน เพื่อรอรับศพหลังจากแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิได้ชันสูตรเสร็จ
นายอิสระ อายุ 54 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เผยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก ที่น้องสาวแท้ๆ ของตนเองได้มาเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถ และเชื่อว่าคนที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือหลานชายแท้ๆ ที่ตนเองรักและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก โดยนิสัยพฤติกรรมหลังจากออกคุก พ้นโทษมาจากคดีฆ่าคนตายเมื่อ 9 ปีก่อน กลับมาอยู่บ้านไม่ถึงปี นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปมาก ถึงขนาดขู่ที่จะฆ่าพ่อแม่มาแล้วหลายครั้ง จนตนเองได้เอ่ยปากเตือนน้องสาว(ผู้เสียชีวิต) ว่าให้พาไปหาหมอรักษาที่ รพ.จิตเวช บ้างก่อนที่มันจะมาฆ่าพ่อและแม่อย่างที่มันพูดจริงๆ และเหตุการณ์นี้ก็มาถึง ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากหลานชาย (นายโจ้) รู้ว่าแม่ได้ขายอ้อยได้เงินมาจำนวนมากจึงคิดที่จะออกอุบายล่อลวงแม่ว่าตนเองป่วยแน่นหน้าอกให้พาไปหาหมอที่ รพ.บ้านแท่น โดยในครั้งแรกก็อ้างว่าป่วยแน่นหน้าอกให้พาไปหาหมอ แต่พ่ออาสาจะพาไปนายโจ้ก็ไม่ไป จนในครั้งนี้แม่ได้ขานอาสาที่จะพาไปแล้วก็ไม่ได้กลับมา โดยมีทรัพนย์สินหายไปเป็นเงินที่ติดัวไป 1,500 บาท โทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์ พร้อมกับนายโจ้ผู้เป็นหลานชาย จนถึงวันนี้จึงอยากฝากไปถึงนายโจ้ผู้เป็นหลานชายหากได้ยิน ขอให้กลับมาพูดความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น หากสิ่งที่เกิดขึ้นหลานเป็นผู้กระทำเองจริงญาติทุกคนก็พร้อมที่จะให้อภัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
