fbpx
Home
|
ภูมิภาค

สั่งหยุดแล้วพระศรีสะเกษพ่นไฟไล่ผีรักษาโรค

Featured Image
ศรีสะเกษ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์สั่งให้หยุดแล้วหลวงพ่อเพชรพ่นไฟไล่ผีรักษาโรค ขณะที่หลวงพ่อเพชรพร้อมหยุดทันที

 

ที่วัดเขาพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) เดินทางไปตรวจสอบกรณีที่พระครูวัชระชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร เจ้าอาวาสวัดเขาพลาญเพชร ได้ใช้วิธีการพ่นไฟไล่ผีและรักษาโรคต่าง ๆ โดยได้นำเอาแป้งข้าวเหนียวมาปั้นเป็นวงกลมพร้อมทั้งบริกรรมคาถาเป็นภาษาเขมรและเสกเป่าลงไปในแป้งที่ปั้นเป็นวงกลมแล้ว จากนั้น ได้นำเอาแป้งไปโป๊ะลงที่หน้าท้องของคนป่วยที่มาเข้ารับการรักษา พยาบาลซึ่งนอนอยู่บนเตียงไม้จำนวน 3 เตียง ต่อมาหลวงพ่อเพชร ได้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับประชาชนที่พากันมารออยู่อย่างต่อเนื่อง โดยพระครูโกศลสิกขกิจ และคณะ ได้ทำการตรวจสอบพิธีการดังกล่าวว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) กล่าวภายหลังจากการประชุมเสร็จแล้วว่า เรื่องนี้พระเดชพระคุณท่านพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) ได้สั่งการให้อาตมภาพ รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่นสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ สาธารณสุขอำเภอภูสิงห์ และฝ่ายปกครองอำเภอภูสิงห์ ซึ่งในวันนี้ได้เข้ามาดูแลตรวจสอบที่วัดเขาพลาญเพชร ซึ่งก็พบว่าเหตุการณ์ปกติส่วนเรื่องที่มีการพ่นไฟไล่ผีรักษาโรคนั้น อาตมภาพได้สั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว เนื่องจากว่า หลวงปู่สรวงท่านไม่เคยสอนวิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการแบบนี้แต่อย่างใด หลวงปู่สรวงจะสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนคนที่ป่วยเป็นโรคจิตนั้นก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ถ้าคนขาดที่พึ่งทางใจอย่างใดอย่างหนึ่งอยากมารดน้ำมนต์เพื่อเป็นกำลังใจก็สามารถที่จะทำได้ ส่วนที่เป็นการพ่นไฟก็ได้สั่งให้ระงับการกระทำดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะ พระครูวัชระชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร ท่านก็ยินยอมโดยที่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดท่านก็จะขอยุติการกระทำดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube