ครูขู่ยิงนักเรียนทิ้ง เหตุเครียดจากการสอน ยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครองนักเรียน ยืนยันจะไม่ทำผิดอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีคลิปแชร์ในสื่อโชเชี่ยลเกี่ยวกับพฤติกรรมของครูที่ใช้คำพูดรุนแรงหยาบคายกับเด็กนักเรียนขณะที่กำลังสอนหนังสืออยู่ในชั้นเรียน มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้กันอย่างแพร่หลายถึงความไม่เหมาะสมของครูที่ใช้คำพูดที่รุนแรงหยาบคายกับนักเรียน
เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนย่านอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า ร.ร.มีการเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ มีเด็กนักเรียนจับกลุ่มกันพูดคุยเกี่ยวกับคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภายในห้องเรียนที่เกิดเหตุ ครูประจำชั้นได้พูดคุยกับนักเรียนสอบถามเรื่องราวเหตุการณ์นี้ เพื่อจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบ ซึ่งในวันนี้ นายคณิตพันธ์ ผอ.ร.ร. เดินทางไปราชการประชุมที่ สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร ในตัว จ.ศรีสะเกษ โดยได้มอบให้ นายเอกธวัช เหลาสิงห์ รอง ผอ.ร.ร.รักษาราชการแทน
ต่อมา นายเกษมสันต์ แพงมา หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษา พร้อมด้วย นายสมศิลป ครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อเหตุด่า น.ร.ตามคลิปได้มาพบกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งนายสมศิลป กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นช่วงการสอนคาบเช้าของวันที่ 20 ธ.ค. 64 ขณะที่ตนกำลังทำการสอนตามปกติ ปรากฏว่า มีเด็กนักเรียนหลายคนไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ บางคนเล่นโทรศัพท์ หวีผม กินขนมในห้อง อีกทั้งสื่อการเรียนคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องเรียนเม๊าส์ได้หายไป ประกอบกับตนมีปัญหาด้านสุขภาพปวดขามานานแล้ว และหูไม่ค่อยได้ยิน จึงเกิดความเครียดสะสม จึงได้ใช้คำพูดที่รุนแรงด่าว่านักเรียนไป เนื่องจากว่า ต้องการให้ นักเรียนทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียนหนังสือ
นายสมศิลป กล่าวต่อไปว่า ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจึงกราบขอโทษผู้ปกครองนักเรียนทุกคนที่ตนได้ใช้คำพูดที่รุนแรงออกไปกับเด็กนักเรียน และพาดพิงถึงผู้ปกครองเช่นนั้น ตนกราบขอโทษ และยืนยันว่า จะไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews