กาฬสินธุ์คลัสเตอร์โควิดงานศพยอดพุ่งกว่าครึ่งร้อยเร่งสอบสวนโรค
จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย ทั้งหมดเป็นการติดเชื้อในจังหวัด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นครูชายชาวต่างชาติ สัญชาติฟิลิปปินส์ อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และหญิง อายุ 66 ปี ชาว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดอยู่ที่ 9,616 ราย หายป่วยแล้ว 9,223 ราย กำลังรักษาตัว 330 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 63ราย
นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ แต่ยังคงพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน ตามอำเภอต่างๆ ส่วนใหญ่ติดเชื้อกันภายในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด รวมทั้งการไปร่วมงานบุญ งานประเพณี ซึ่งหลังจากได้รับรายงานการพบผู้ป่วยแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนลงพื้นที่สอบสวนโรค และคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทันที เพื่อป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาด พร้อมกับนำตัวผู้ป่วยเข้ารักษา คัดแยกกลุ่มเสี่ยงเข้าตรวจหาเชื้อและนำเข้าสู่ระบบกักตัวตามมาตรการ
นายแพทย์อภิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีคลัสเตอร์ใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 2 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์เรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง และคลัสเตอร์ห้างจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างนั้น ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว กลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรอง และผู้ป่วยได้รับการรักษา ส่วนใหญ่หายป่วยกลับบ้านเกือบจะทั้งหมดแล้ว
นายแพทย์อภิชัย กล่าวว่า ในส่วนกรณีคลัสเตอร์งานศพในพื้นที่ชุมชนบ้านบัวขาว ม.12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ และค่อนข้างมีแนวโน้มเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ เนื่องจากเท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วมากกว่า 50 ราย และกำลังรอการรายงานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งนี้เนื่องจากคลัสเตอร์นี้เริ่มแรกเกิดจากการจัดงานศพ เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วมีการรับประทานอาหารร่วมกัน หลังจากนั้นมีการแพร่กระจายอยู่ตามชุมชนต่างๆ มีกลุ่มเสี่ยงหลายร้อยคน ซึ่งสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เพราะยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค การติดตามตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยง และอยู่ระยะของการเฝ้าระวัง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
