เพชรบูรณ์ป่วยโควิดดับอีก 2 ราย ทีมควบคุมโรค จ่อตรวจเชิงรุกลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่า หลังพบ 4 คนงานเป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มแซงแซว
ผู้สื่อข่าวรายงานมีรายงานจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์แจ้งว่า มีเคสผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 2 ราย โดยรายแรกเป็นผู้สูงอายุชาย อายุ 89 ปี ที่อยู่ ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 1 ส.ค. 64 เวลา 13.52 น. เสียชีวิตวันที่ 15 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 07.50 น. นับเป็นรายที่ 25 ของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ส่วนอีกรายผู้เสียชีวิต รายที่ 26 ของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็นผู้ป่วยโควิดชาย อายุ 55 ปี ที่อยู่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี เข้ารักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 23 ก.ค. 64 เวลา 13.52 น.มีอาการปอดติดเชื้อรุนแรง เสียชีวิตวันที่ 15 ส.ค. 64 เวลา 07.50 น.
ส่วนความคืบหน้ากรณีชาวเมืองเพชรบูรณ์เกิดอาการผวา หลังมีการตรวจ ATK พบเคสคนเก็บของเก่าขายชุมชนสันเขื่อนหลังวัดประตูดาว (กลุ่มแซงแซว) หมู่ที่ 1,12 ต.สะดียง อ.เมือง โดยผลตรวจเป็นบวกรวม 18 ราย ล่าสุดทางทีมควบคุมโรคสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ(สสอ.)เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งแยกกักตัวผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ที่โรงพยาบาล 1 สนามกีฬาแล้ว วันนี้ทางทีมควบคุมโรคฯ ทำการสวอปเก็บตัวอย่างผู้ติดเชื้อเหล่านี้ เพื่อส่งไปตรวจ PCR ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ยืนยันผลตรวจเชื้ออีกครั้ง นอกจากนี้ยังทำการเอ็กเรย์ปอดเพื่อตรวจสอบอาการหลังพบการติดเชื้อ แต่เบื้องต้นผู้ติดเชื้อทั้ง 18 คนมีอาการอยู่ในกลุ่มสีเขียวทั้งหมด
นายดิลก อ่อนลา สสอ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงถึงสาเหตุที่ชาวเมืองเพชรบูรณ์ค่อนข้างผวากับผู้ติดเชื้อกลุ่มชุมชนสันเขื่อนหลังวัดประตูดาว(กลุ่มแซงแซว)ว่า เนื่องจากผู้เก็บของเก่ากลุ่มนี้ค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับคลัสเตอร์ตลาดสดเทศบาล 3 และตระเวนกับของเก่าไปทั่ว อย่างไรก็ตามขณะที่ ทีมควบคุมโรค อยู่ระหว่างขยายผล โดยการเร่งตรวจเชิงรุกในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ล่าสุดกำลังจะเข้าตรวจสอบพนักงานร้านรับซื้อของเก่าจำนวนกว่า 20 คน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อกลุ่มชุมชนสันเขื่อนหลังวัดประตูดาวจำนวน 4 รายที่ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่นั่ด้วย นอกจากนี้อยู่ระหว่างไล่ไทม์ติดเชื้อทั้งหมด เพื่อขยายผลในการตรวจเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่ม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
