ภรรยาน้ำตานองกักตัว ต้องวิดีโอคอล ส่งศพสามี วัย 64 ปี ป่วยโควิด เสียชีวิต รายที่ 7 ของสุโขทัย
ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 167 ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุโขทัย ได้เสียชีวิตลงแล้ว ยอดเพิ่มเป็นรายที่ 7 ของ จ.สุโขทัยแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้คือ นายบุญลือ สติดี อายุ 64 ปี ชาว ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยผู้เสียชีวิตมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
เริ่มมีอาการไอเจ็บคอและครั่นเนื้อครั่นตัว มาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 ไม่มีประวัติไปในพื้นที่เสี่ยง แต่มีประวัติร่วมงานศพญาติ ติดเชื้อจากการไปในสถานที่แออัดพบปะผู้คนจำนวนมากประกอบกับผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุเมื่อติดเชื้อจึงทำให้มีอาการรุนแรง และในวันที่ 30 มิ.ย.64 เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อย เจ็บคอ วันที่ 1 ก.ค.64 เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจหาเชื้อพบ โควิด-19 จึงเข้าทำการรักษาตัวทันที
แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีอายุมาก จึงทำให้อาการทรุดหนัก ทางทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลสุโขทัย ได้ให้การรักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตลงอย่างสงบ ในเวลา 20.25 น. ของวันที่ 17 ก.ค.64
ทางเจ้าหน้าที่ ได้นำร่างขอผู้ป่วยโควิด-19 รายนี้ไปทำการฌาปนกิจ ที่วัดราชธานี ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย เมื่อเวลา 09.30น. ของวันนี้ (18ก.ค.) ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรการ DMMHTT อย่างเคร่งครัด โดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุโขทัย สาธารณสุขอำเภอเมืองสุโขทัย เป็นตัวแทนทำพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 รายที่ 7 ของจังหวัดสุโขทัย
ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ทางญาติผู้ตายต้องใช้วิธีวิดีโอคอล ให้ภรรยาที่ป่วยเป็นโควิด-19 แต่รักษาหายแล้ว ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ไม่สามารถมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพผู้ตายได้ โดยภรรยาถึงน้ำตานองหน้า ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าสามีไปชั่วชีวิตนี้แล้ว ต้องส่งศพทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตรายนี้ เพิ่งได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกไป เมื่อวันที่ 11มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดสุโขทัยวันที่ 17 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 771 ราย กำลังรักษา 433 ราย รักษาหายกลับบ้าน 322 ราย เสียชีวิต สะสม 6 และเพิ่มเสียชีวิตในวันนี้ (18 ก.ค. 64) อีก 1 ราย รวมเป็นเสียชีวิต สะสม 7 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
