fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

DITP มอบประกาศนียบัตรผู้ได้รับตรา T Mark ปี 66

Featured Image
DITP มอบประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติผู้ได้รับตรา T Mark ปี66 ตั้งเป้ายกระดับจากตราสัญลักษณ์ของความไว้วางใจ สู่ตราสัญลักษณ์แบรนด์ประเทศไทย

 

 

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ประจำปี 2566 เพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้ประกอบการที่รักษาคุณภาพมาตรฐานของการผลิต มีการใช้แรงงานที่เป็นธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตอกย้ำความเชื่อมั่นสินค้าและบริการไทยในเวทีการค้าโลก

 

ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมตราสัญลักษณ์ T Mark มาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในคุณภาพสินค้าและบริการของไทยในสายตาของผู้นำเข้าในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล

 

 

สร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการของไทยในเวทีการค้าโลก กรมจึงได้ริเริ่มตราสัญลักษณ์ T Mark ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการแบรนด์ไทยในต่างประเทศ

 

 

ปัจจุบันตราสัญลักษณ์ T Mark ไม่เพียงสร้างการจดจำและการรับรู้ถึงความเป็นสินค้าและบริการไทยที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ยังสะท้อนถึงการดำเนินงานของผู้ประกอบการไทยที่ใส่ในการดำเนินธุรกิจ มีการบริหารจัดการที่ดีทั้งด้านการผลิต การใช้แรงงานที่เป็นธรรม การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสังคมด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ต่างประเทศให้ความสำคัญ

 

โครงการส่งเสริมตราสัญลักษณ์ T Mark จึงเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของการสร้างแบรนด์ประเทศไทยในด้านการค้าและบริการ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถทางการแข่งขันที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก โดยในระยะต่อไป กรมฯ มีแผนที่จะประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ตราสัญลักษณ์ T Mark เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

 

โดยจะเน้นตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีความชื่นชอบและยอมรับในคุณภาพของสินค้าและบริการไทย นอกจากนี้ กรมยังมีแผนจะยกระดับการสร้างภาพลักษณ์ตราสัญลักษณ์ T Mark สู่การเป็นตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็น “แบรนด์ประเทศไทย” อีกด้วย

 

 

ด้านนางสาวประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวว่า ผ่านมามีผู้ประกอบการที่เคยได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark รวมทั้งสิ้น 862 บริษัท 1,604 แบรนด์ และ 4,861 รายการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่คงสถานะเป็นสมาชิก T Mark มีจำนวน 249 บริษัท เนื่องจากต้องมีการต่ออายุสมาชิกทุก 3 ปี

 

 

สำหรับในปี 2566 นี้ มีผู้ประกอบการสมัครขอรับตรา T Mark ทั้งสิ้น 199 บริษัท ผ่านการพิจารณารวม 73 บริษัท แบ่งเป็น กลุ่มผู้สมัครรายใหม่ 19 บริษัท และกลุ่มที่ขอต่ออายุ 54 บริษัท รวมทั้งสิ้น 191 แบรนด์ 1,901 รายการ โดยในปีนี้ กรมได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ T Mark ตลอดจนสินค้าและบริการของสมาชิก T Mark ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดต่างประเทศ

 

อาทิ การจัดนิทรรศการแสดงสินค้า T Mark ภายในงานแสดงสินค้านานาชาติที่กรมจัดในประเทศไทย จำนวน 3 งาน ประกอบด้วย งาน STYLE งาน TAPA และ งาน THAIFEX การจัดนิทรรศการ T Mark POP UP ในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย และการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์กับผู้นำเข้าบาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย รวม 2 กิจกรรม ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าการค้าภายใน 1 ปี ประมาณ 12.39 ล้านบาท

 

 

นอกจากนี้ กรมยังได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า T Mark ในต่างประเทศ เพื่อคุ้มครองการใช้ตราสัญลักษณ์ T Mark จำนวน 58 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 9 ประเทศ (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม) เอเปค 14 ประเทศ (รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ชิลี ปาปัวนิวกินี เปรู สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) ตะวันออกกลาง 5 ประเทศ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ตุรกี อิสราเอล อิหร่าน และซาอุดิอาระเบีย) อินเดีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และสหภาพยุโรป 28 ประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้นำเข้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ รวมถึงป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้าไทยด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube