fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

หอการค้าจัดสัมมนา “เปิดโอกาสการค้าซาอุดีอาระเบีย”

Featured Image
สัมมนา “เปิดโอกาสการค้าซาอุดีอาระเบีย กับหอการค้าไทย Trade-Travel-Investment” เวทีแลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อเสนอแนะ และโอกาสของภาคเอกชนไทย

 

 

ในงานสัมมนา”เปิดโอกาสการค้าซาอุดีอาระเบีย กับหอการค้าไทยTrade-Travel-Investment” นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศซาอุดีอาระเบียในช่วงต้นปี 2565 ถือเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะภาคการค้าการค้าระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 323,113.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.64% ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 17 ในตลาดโลก และเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนด้านการท่องเที่ยว ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบีย จำนวน 96,389 คน สร้างรายได้ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวซาอุฯ ถึง 150,000 คน สร้างรายรวมกว่า 12,000 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินจาก 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ถือเป็นการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างก้าวกระโดดหลังจากนี้ต่อไป

 

นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด กล่าวในตอนหนึ่งของปาฐกถาพิเศษว่า ซาอุดีอาระเบียสนใจที่จะลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดทำเขตการค้าเสรีของไทยและกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมืออาหรับ (GCC) ซึ่งจะต่อยอดไปสู่ภูมิภาคแอฟริกาได้

 

ด้าน นายอับดุรเราะห์มาน อับดุลอะซีซ อัลซุฮัยบานี (H.E. Mr. Abdulrahman Abdulaziz Alsuhaibani) เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของไทยและซาอุดีอาระเบียมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรสมัยใหม่ ด้านการค้า และด้านการลงทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบีย ได้มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศให้เกิดความหลากหลายทั้งในด้านสุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว พร้อมเมกะโปรเจคเมืองนีออม ภายใต้ชื่อ “The Line” ซึ่งส่วนนี้ จะช่วยให้การเกิดลงทุนมาหศาลและสนับสนุนเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียมากขึ้น

 

 

สิ่งที่น่าจับตามอง คือ ซาอุดิอาระเบียมีความชัดเจนในการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ผ่าน VISION 2030 และกำหนด 6 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่

1) เพิ่มสัดส่วนธุรกิจภาคเอกชน จาก 40% เป็น60% ของ GDP

2) เพิ่มการส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันจาก 16% เป็น 50 ของ GDP ที่ไม่รวมน้ำมัน

3) เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย ด้านวัฒนธรรมและบันเทิงจาก 2.9% เป็น 6%

4) เพิ่ม FDI ให้เทียบเท่าระดับนานาชาติจาก 3.8% เป็น 5.7%

5) เพิ่มขีดความสามารถในการรับผู้แสวงบุญจาก 8 ล้านคน เป็น 30 ล้านคน

และ 6) สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

โดยทั้งหมดนี้จะเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจไทยที่จะได้แสวงหาโอกาสในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ซึ่งหอการค้าไทยจะได้ร่วมกับรัฐบาลเชื่อมโยงโอกาสดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube