การบินกรุงเทพ โชว์ผลดำเนินงานสร้างรายได้ 8.1 พันล้านตามเป้า ขนส่งผู้โดยสารรวม 2.6 ล้านคน หลังผลประกอบการงวด 9 เดือนฟื้นตัวดี
นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่3 ของปี 2565 บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางที่มีปริมาณความต้องการเดินทางที่สูงขึ้นเช่น เส้นทางกรุงเทพ-สมุย กรุงเทพ- เชียงใหม่ กรุงเทพ-พนมเปญ และสมุย-สิงคโปร์
และได้กลับมำให้บริการ เส้นทำงบินกรุงเทพ-มัลดีฟส์ กรุงเทพ-เสียมเรียบ กรุงเทพ-ย่างกุ้ง และกรุงเทพ-ดานัง นอกจากนั้นในไตรมาสที่สามบริษัทได้เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่และ สมุย – หาดใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม 2565 บริษัทมีจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ร้อยละ910.4 และ 9 เดือน แรกของปี 2565 บริษัทฯขนส่งผู้โดยสารจำนวน 1.7 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบิน 19,648 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 528.1
สำหรับผลการดำเนินงานเก้าเดือนแรกของปี 2565มีรายได้รวม 8,121.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผู้โดยสารรวม 1.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 0.27 ล้านคน มีความมั่นใจว่าทั้งปี 2565 จะสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย โดยมีรายได้ที่ 8,100 บาท และมีผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน ซึ่งงวด 9 เดือนทำได้แล้ว 1.7 ล้านคน เหลือช่วงไตรมาส 4/2565 ประเมินว่าผู้โดยสารจะอยู่ที่ระดับ 9 แสนคนหรือมากกว่านั้น และผลประกอบการไตรมาส 4 นี้ จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ จากปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยฟื้นตัวดีต่อเนื่อง อีกทั้งช่วงปลายปีนี้จะมีกิจกรรมทางการกีฬาเกิดขึ้น และมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนปริมาณผู้โดยสารและผลประกอบการให้เป็นตามเป้าหมาย แต่ยอมรับว่าผลประกอบการทั้งปี 2565 จะยังขาดทุนอยู่ เนื่องจากการเดินทางทางอากาศยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ แต่เชื่อว่าผลประกอบการของ BA จากนี้จะทยอยฟื้นตัวและลดการขาดทุนลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทฯอยู่ระหว่างการส่งคืนเครื่องบินแอร์บัส A-320 แบบเช่าจำนวน 5 ลำ ซึ่งได้ทยอยส่งคืนแล้ว 1 ลำเมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และจะส่งคืนอีก 2-3 ลำ ในสิ้นปีนี้ และจะส่งคืนครบทั้งหมดช่วงต้นปี 2566 อีกทั้ง ได้จำหน่ายเครื่องบินแบบใบพัด ATR72-500 จำนวน 2 ลำ ส่งมอบแก่ลูกค้าแล้ว 1 ลำ เหลืออีก 1 ลำจะส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกันนี้ยังมีการจำหน่ายเครื่องบิน ATR72-600 อีก 3 ลำจากทั้งหมด 10 ลำ ซึ่งมีผู้สนใจซื้อและลงนามในสัญญาแสดงเจตจำนงซื้อแล้ว คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะสามารถส่งมอบให้ผู้ซื้อได้ 1-2 ลำ และส่งมอบครบต้นปี 2566
ขณะที่ ความคืบหน้าการลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก พื้นที่ 6,500 ไร่ มูลค่า 2.9 แสนล้านบาทนั้น ล่าสุดจากการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (นิติบุคคลตั้งขึ้นเฉพาะกิจโดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ประกอบด้วย BA /บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC) จะเริ่มเข้าพื้นที่พัฒนาโครงการได้ช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ขณะปัจจุบันบริษัท อู่ตะเภาฯ อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียดพื้นที่พัฒนาและมีความพร้อมที่จะเข้าพื้นที่ได้ทันที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
