“คณิศ แสงสุพรรณ” เผย ลงนามแหลมฉบังระยะ3แล้ว เงินลงทุนกว่า 1 แสนลบ. สรุป 4 โครงการ EEC รัฐได้ผลตอบแทนกว่า 2 แสนลบ.
หลังพิธีลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยและ บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชันแนล เทอร์มินอล จำกัด
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวมีการขนส่งด้วยรถไฟเพียงร้อยละ 7 จึงต้องการให้ โครงการนี้เชื่อมต่อการขนส่งกับท่าเรือขนาดใหญ่ในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยจะนำใช้ระบบออเตอร์เมชั่นมาใช้ คาดว่าหลังจากนี้จะมีการขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30
ขณะเดียวกัน หลังจากนี้มีแผนจะทำดราย พอร์ท โดยจะเช็คคอนเทนเนอร์สินค้าจากรถไฟเพียงครั้งเดียว และเมื่อเข้าท่าเรือจะไม่มีการตรวจสอบซ้ำจะทำให้หน้าท่าจะทำงานได้ 24 ชั่วโมง จากเดิมที่ทำเพียงกะเดียว และคอนเทนเนอร์ที่เข้าท่าเรือจะมากขึ้น
โดยการลงทุน 4 โครงการหลักของ EEC ( High-Speed Railway,ท่าอากาศยานอู่ตะเภา,ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3,ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 )
ขณะนี้ลงนามทั้งหมดแล้ว รวมวงเงินการลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาทแต่ภาคเอกชนให้ผลตอบแทนภาครัฐกว่า 4 แสนล้านบาท โดยรัฐจะได้ผลตอบแทนสุทธิประมาณ 2 แสนล้านบาท และสำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเรือ F ใช้เงินลงทุน 109,215 ล้านบาท เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP โดยรัฐลงทุน 48,329 ล้านบาท และเอกชนลงทุน 68,886 ล้านบาท โดยมีผลประโยชน์ทางการเงินที่ภาครัฐจะได้รับจากโครงการเป็นค่าสัมปทานคงที่คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท มีระยะเวลาร่วมลงทุน 35 ปี
อย่างไรก็ตาม หลังจากลงนามเสร็จจะเริ่มงานออกแบบควบคู่ไปกับการเตรียมทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EHIA) เพื่อเดินหน้าโครงการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
