fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

ไฟเขียวต่างชาติ29รายลงทุนไทยอีก559ล้าน

Featured Image
กระทรวงพาณิชย์ อนุญาตให้ต่างชาติลงทุนในไทย ก.ย. รวม 29 ราย เงินลงทุน 559 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 742 คน มั่นใจไตรมาสสุดท้ายขอลงทุนต่อเนื่อง

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เดือนกันยายน 2564 ที่ประชุมได้อนุญาตให้คนต่างชาติรวม 29 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 559 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 742 คน

ซึ่งการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้ จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานและกระบวนการทำงานทางเทคนิคของหน่วยกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันดีเซลโดยไฮโดรเจน องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลั่นน้ำ หรือก๊าซ หรือน้ำมัน เพื่อเปลี่ยนน้ำเสีย หรือก๊าซ หรือน้ำมันดิบให้เป็นน้ำ หรือพลังงานสะอาด แบ่งเป็น ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 13 ราย ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ จำนวน 9 ราย ธุรกิจนายหน้า/ค้าส่งสินค้า จำนวน 4 ราย และธุรกิจบริการโดยเป็นคู่สัญญากับเอกชน จำนวน 3 ราย

และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีนักลงทุนต่างชาติได้รับอนุญาตให้เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้วจำนวน 161 ราย รวมเงินลงทุน 9,943 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และคาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ชาวต่างชาติจะยังคงเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องบรรยากาศที่ดีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงมีมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็งในการรับมือกับโรคโควิด-19 ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube