fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

เอกชนห่วงการเมืองระหว่างปท.แบ่งขั้วเกิดสงคราม

Featured Image
ภาคเอกชน ห่วงการเมืองระหว่างประเทศแบ่งขั้ว เกิดสงคราม กระทบเศรษฐกิจโลก ขณะ โควิด-19 เรียนรู้ได้ ปรับตัวทัน

จากงานสัมมนา ปลุกพลังส่งออก พลิกเศรษฐกิจไทย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย นายกกิตติคุณ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า การส่งออกของไทยที่ผ่านมาเผชิญกับวิกฤตที่มีความท้าทายมาโดยตลอด โดยเฉพาะผลจากโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของมนุษย์ ผู้บริโภค ประชาชน รวมถึงคู่ค้าเปลี่ยนแปลงไป แต่ภาคเอกชนผู้ส่งออกของไทยสามารถเรียนรู้และปรับตัวที่จะรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่งเพราะที่ผ่านมาภาคเอกชนไทยเผชิญกับวิกฤตมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะเกิดการเรียนรู้และปรับตัวทำให้อยู่รอดในอนาคต ซึ่งการส่งออกของไทยในปีนี้ เชื่อว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะยังคงขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลักเพราะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวคำสั่งซื้อจากช่วงเทศกาลคริสต์มาสและตรุษจีนเริ่มเห็นผล

แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ภาครัฐมีการตั้งเป้าหมายการส่งออกให้มีความท้าทาย มากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะเร่งผลักดันการส่งออกในอนาคตหากคาดหวังให้การส่งออกเป็นเครื่องยนต์หลักในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกันของทุกกระทรวงเพราะการส่งออกไม่ใช่เรื่องของกระทรวงพาณิชย์เพียงกระทรวงเดียวแต่จะต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอื่นๆด้วยเพื่อทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้และได้รับการยอมรับในตลาดโลก

รัฐบาลจะต้องเร่งเจรจาการค้าพหุภาคีที่ค้างอยู่ให้สัมฤทธิ์ผลหมดเวลาเกรงใจ หากมีผู้ที่ได้รับผลกระทบหน้าที่รัฐบาลคือการเยียวยา แต่การเจรจาจะต้องเดินหน้าเพราะเวลานี้มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าขั้วเศรษฐกิจและการเมืองกำลังเผชิญหน้ากัน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและจีน หากเกิดเป็นการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งผูกติดกับเศรษฐกิจโลกประเทศไทยจะได้รับผลกระทบด้วย หากไม่มีแต้มต่อใดๆในการรับมือผ่านกรอบการเจรจาความตกลงต่างๆ จะส่งผลกระทบที่รุนแรง ในขณะที่การเลือกขั้วทางการเมืองระหว่างประเทศของไทยจะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากเพราะหากเกิดความผิดพลาดจะส่งผลต่อเศรษฐกิจภายในประเทศรวมถึงความมั่นคงในอนาคต

ด้านนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า การส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง และทำให้ตลอดทั้งปีการส่งออกน่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 10 คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมองว่าจุดต่ำสุดของการส่งออกได้ผ่านพ้นไปหมดแล้วรวมถึงวิกฤตที่กระทบกับภาคการส่งออกถือว่าผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้วหลังจากนี้จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในแต่ละอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าในช่วง 4-6 เดือนนี้จะยังคงมีปัญหาแต่จะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมองว่าหากต้องการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของผู้ประกอบการในอนาคตจะต้องมีการลงทุนผ่านเทคโนโลยี การวิจัยพัฒนาให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่จะต้องเร่งพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจาก โควิด-19จบลง

ด้านนายการัณย์ อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ โคราช จำกัด กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การทำงานที่บ้าน การสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ การให้ความสำคัญกับสินค้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโควิด-19 ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสินค้าของทางบริษัทยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน คาดว่า ปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 30 โดยทางบริษัทมีการปรับตัวรับกับความต้องการของคู่ค้าที่เปลี่ยนไปและเร่งผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น ทำให้มองในช่วงโควิด-19 ยังมีโอกาส หากสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ทัน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube