fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

เวียดนามคู่แข่งสำคัญของไทยในอาเซียน

Featured Image
นักวิชาการ ระบุ เวียดนามคู่แข่งสำคัญของไทยในอาเซียน ขณะที่กัมพูชาใช้จุดขายในก.ย.ปชช.เข้าถึงวัคซีน 70% สร้างแต้มต่อในอนาคต

การสัมมนา CMA-GMS Business Forum 1/2021 CLMV Today : Fighting for Future “กลางวิกฤต COVID โอกาสทางธุรกิจยังมีอยู่ไหม” รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า อาเซียนโดยเฉพาะCLMVยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจของมหาอำนาจด้านการค้าต่างๆทั้งการมาลงทุนและการทำการค้าเพื่อขยายต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งรูปแบบในการทำการค้าหลังโควิด-19 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน จะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรและจับมือในการขยายอิทธิพลทางการค้าของตนเอง โดยสหรัฐยังคงมองจีนเป็นภัยคุกคาม และพร้อมเข้าคานอำนาจของจีนในหลายประเทศที่จีนให้ความสำคัญ

และเพื่อเลี่ยงผลกระทบทางการค้าจีนจะไม่ลงทุนในประเทศแต่จะพิจารณาประเทศที่ 3 โดยอาเซียนยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญและจาก 10 ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม เป็นประเทศที่มีศักยภาพพร้อมรับการลงทุนมากที่สุด โดยเฉพาะเวียดนาม 1ในประเทศกลุ่มCLMVได้มีการพัฒนาด้านกฎหมายทางธุรกิจให้มีความทันสมัย สนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศในทุกรูปแบบ ทำให้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้ดี กฎหมายของเวียดนามนั้นพร้อมพัฒนาเป็นมาตรฐานโลกไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ซึ่งตรงกับความต้องการของนักลงทุนที่ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการลงทุนแล้ว โดยมองปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน,แรงงาน สามารถพัฒนาได้ แต่กฎหมายรวมถึงข้อระเบียบต่างๆไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลง โดยเวียดนามมีความตกลงทางการค้า 13 ฉบับเท่ากับประเทศไทย แต่มีประเทศที่อยู่ภายใต้ความตกลง 13 ฉบับ กว่า 50 ประเทศ ในขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 18 ประเทศและจากการศึกษาพบว่าภายในปี 2050 เศรษฐกิจของเวียดนามจะขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 20 ของโลกจากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 32 ในขณะที่ประเทศไทยอันดับจะลดลงจากปัจจุบันอันดับ 20 ไปอยู่ที่อันดับ 25 และจีนยังคงเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 1 รองลงมาคือสหรัฐและอินเดีย

ในขณะที่กัมพูชาเวลานี้ถึงแม้จะยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีสถิติที่ลดลงโดย ทางกัมพูชา ระบุว่าเวลานี้ประชาชนได้รับวัคซีนแล้วร้อยละ 87.68 ของประชากรทั้งหมดและ ประกาศว่า ภายในเดือนกันยายนนี้ประชาชนจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ครบร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศภายในประเทศ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างแต้มต่อสำหรับการเดินหน้าเศรษฐกิจของกัมพูชา ทำให้การค้าการลงทุนรวมถึงการจ้างงานสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกฎระเบียบทางการค้าต่างๆของกัมพูชาเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศและพร้อมที่จะขยายสิทธิประโยชน์ให้เพิ่มมากขึ้น หากการลงทุนนั้นมีผลดีต่อประชาชนในประเทศ

ด้านสปป.ลาว พร้อมรับการลงทุนจากประเทศจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขยายเส้นทางการคมนาคมเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนซึ่งในอนาคตจะเป็นจุดแข็งที่จะทำให้ประเทศจีนนอกจากจะเป็นประเทศเศรษฐกิจที่สำคัญแล้วจะยังเป็นประเทศที่สามารถเป็นช่องทางการกระจายสินค้าไปยังสหภาพยุโรปได้ดีขึ้นหลังจากมีการพัฒนาเส้นทางการขนส่งทางรถไฟซึ่งจะสามารถลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากประเทศอาเซียนกระจายไปยังสหภาพยุโรปได้ภายใน 25 วันจากการขนส่งสินค้าทางเรือที่จะต้องใช้ระยะเวลา 90 วัน ในขณะที่ค่าระหว่างทางรถไฟและค่าระวางทางเรือไม่ได้แตกต่างกันโดยค่าระวางเรือในการขนส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรปเวลานี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงกว่าเวลาปกติ 3-4 เท่า การพัฒนาขนส่งทางรถไฟจึงถือเป็นโอกาสในอนาคต และสำหรับประเทศเมียนมานั้น หลังเกิดการยึดอำนาจยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าทั้งสหรัฐและจีนจะเข้ามามีบทบาทอย่างไร โดยบทบาทของแต่ละประเทศจะมีส่วนสำคัญกับการเดินหน้าอนาคตของเมียนมาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube