fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่น ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน “มินนี่”

Featured Image
“บิ๊กโจ๊ก” ยันหนักแน่น ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน “มินนี่” ตัดพ้อ เป็นรองผบ.ตร. คนเดียวที่ไม่ได้คุมไซเบอร์ พร้อมเตือน “สื่อมวลชน” หากปั้นข่าวเท็จจะใช้กฎหมายจัดการ

 

 

 

วันนี้ (19 ก.พ. 67) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ออกหมายเรียกตนให้ไปสอบปากคำฐานะพยาน ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 67) หลังมีรายชื่อและเส้นทางการเงินเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ ว่า เรื่องนี้มีการปูพื้นมาจากเว็บพนันของเครือข่ายมินนี่ และมีการโยงเส้นทางการเงินมายังลูกน้องของตนทั้ง 8 คน และสำนวนคดีมีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว ซึ่งหากสั่งฟ้องอัยการแล้วตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ เนื่องจากตนไม่ได้ให้คุณให้โทษกับเว็บพนัน และตนไม่ได้คุมไซเบอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่ดูความมั่นคงก็ตาม

 

 

ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนโอนไปยังลูกน้องนั้น ยืนยันว่าเป็นเงินที่ตนให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน ส่วนที่ตนต้องตกเป็นเป้าหมายนั้น เชื่อว่าสังคมรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิตตน แต่จะเป็นเรื่องไหนนั้นตนไม่ขอพูด และเชื่อว่าจะมีการแต่งบทละครใส่ร้ายตนให้เสียชื่อเสียง จนกว่าคดีนี้จะยุติ

 

 

ส่วนหมายเรียก ของ สอท. ที่ระบุว่า ให้ตนไปให้การในฐานะพยานนั้น จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด ส่วนจะเดินทางไปหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจอะไร และต้องเป็นคำสั่งของอัยการเท่านั้นตนถึงจะเดินทางไป เพราะสำนวนคดีนี้อยู่กับอัยการ และส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า สำหรับคดีนี้ตนรู้สึกสงสารลูกน้อง และพนักงานสอบสวนบางคนที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อแต่ไม่ได้ทำสำนวน และขอเตือนว่าพอถึงเวลาปัญหาเกิดขึ้นจะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีนายอยู่เคียงข้าง เพราะตนเจอมาหมดแล้ว พร้อมเตือนสื่อมวลชนที่แชร์ข่าวให้ตนได้รับความเสียหาย ว่า ให้พึงระวังหากข่าวดังกล่าวไม่จริง ตนจะใช้กฎหมายดำเนินการ

 

 

ส่วนกรณีอัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนไปคุกคาม สะกดรอยตามนั้น จากการสอบถามลูกน้องยืนยันว่า ไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว และหลังจากเป็นกระแสก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีการไปคุกคาม ได้มีการมาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนเพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อนจะไม่ให้ยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่จำเป็น

 

 

ส่วนกรณีของ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ถูก 1 ใน ชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. โทรศัพท์เข้ามาเพื่อให้กลับคำให้การ ทำให้ตนและพวกเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า มีการติดต่อมาจริงเป็นพนักงานสอบสวน ยศนายพัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ลูกน้องของตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเข้าข่ายผิด ม.157 หรือไม่

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube