fbpx
Home
|
อาชญากรรม

มูลนิธิรณสิทธิ์ฯ ร้องอสส. ไม่สั่งฟ้องรัฐเอี่ยวส่วยสถานบริการ

Featured Image
มูลนิธิรณสิทธิ์ฯ ร้อง อัยการสูงสุด ปม สำนักงานคดีทุจริต ภ.7 ไม่สั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวรับส่วยสถานบริการชมดาวคาราโอเกะ จ.กาญจนบุรี

 

 

 

วันนี้ (6 มิ.ย. 66) นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์และความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ยื่นหนังสือต่อ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในกรณีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีทุจริตภาค7 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนจากสถานบริการชมดาวคาราโอเกะ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2558

นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะในครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคม 2558 และพบเอกสารการเรียกรับส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐ หลายคน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับเงินสด 7 นาย และกลุ่มที่โอนเข้าบัญชี 6 นาย ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ แบ่งออกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรก คือกลุ่มที่รับส่วยจากการโอนเข้าบัญชี จากหลักฐานในครั้งนั้น ทำให้มีการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งในปี 2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเป็นคดีพิเศษในส่วนของการทุจริตและประพฤติมิชอบในเจ้าหน้าที่รัฐและได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังสำนักงานอัยการภาค 7 แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มีความคืบหน้าว่า สมควรสั่งฟ้องหรือไม่

ส่วนอีกสำนวน คือ กลุ่มที่รับส่วยเป็นเงินสด กลุ่มดังกล่าว ดีเอสไอ ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ไปเมื่อ ปี 2565 แต่ในสำนวนดังกล่าว ทางพนักงานอัยการภาค 7 กลับมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ส่วนนี้มีการตั้งข้อสงสัยว่ามีพยานหลักฐานชัดเจน ครบถ้วน แต่กลับไม่สั่งฟ้อง จึงอยากมาถามทางสำนักงานอัยการสูงสุดว่าเหตุใดถึงไม่สั่งฟ้อง ได้ดูพยานหลักฐานครบแล้วหรือยัง และจะไปถามยัง ดีเอสไอ ว่า หลังอัยการภาค7 ส่งกลับมาว่าไม่ฟ้อง ทำไมถึงไม่แย้งกลับไป

 

นายรณสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนเองเชื่อว่ามีกลุ่มขบวนการที่พยายามช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา เพราะในกลุ่มที่ 2 ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง มีตำรวจระดับพันตำรวจเอกเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่มีสัญชาติเมียนมา และยังเป็นเด็กหญิง อายุ 15 ปี ถูกดำเนินคดี ในข้อกล่าวหามั่วสุม และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการทำการปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนอายุผู้เสียหาย จาก 15 ปี เป็น 18 ปี ซึ่งขณะนั้น ตนเองได้ยื่นหนังสือและช่วยเหลือเด็กหญิงจนกลับภูมิลำนาได้แล้ว

ด้านนายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในข่วงบ่ายนี่จะนำเอกสารดังกล่าวยื่นให้ท่านอัยการสูงสุดตรวจสอบทันที ซึ่งการตรวจสอบจะเร่งทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ยอมรับว่าตอนนี้มีหลายคดีที่อัยการสูงสุดต้องเร่งตรวจสอบ

จากนั้นนายรณสิทธิ์ ยังได้เดินทางยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมาอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ให้ตรวจสอบสำนวนที่ทางพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ดำเนินการในกรณีเดียวกันนี้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube