fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ปราปต์ปฎล บุกดีเอสไอ แฉ ถูกเรียกเงิน “ค่ายุติธรรม”

Featured Image
ปราปต์ปฎล บุกดีเอสไอ แฉขบวนการตบทรัพย์ และผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะถูกเรียกเก็บเงิน “ค่ายุติธรรม” ในคดีฟอกเงินของตนเองที่มีความเกี่ยวเนื่องกับแชร์ลูกโซ่ Forex-3D

 

 

วันนี้ (7 มี.ค.66) นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ ได้เดินทางมายังดรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อมาเปิดเผยความจริงต่อสื่อมวลชน ถึงขบวนการ ‘ตบทรัพย์’ เรียกรับเงินของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมทั้งเปิดเผยผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าว

 

นายปราปต์ปฎล กล่าวว่า วันนี้ได้มายื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดีฐานความผิดร่วมกันฟอกเงินที่ทางดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาตนไป ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาตนได้รับผลกระทบกับชีวิตอย่างหนัก ชีวิตพังเนื่องจากไม่มีงาน เพราะผู้จัดหรือผู้ผลิตหนังและละครขอให้ตนไปจัดการเรื่องคดีความให้เรียบร้อยก่อน

 

ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่ผ่านมาเลขาธิการ รวม.ยุติธรรม และทางอธิบดีดีเอสไอได้พูดย้ำกับผู้สื่อข่าวหลายรอบว่า ดารา ป. (ตนเอง) ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงประชาชนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ Forex3D แต่ได้รับข้อหล่าวหาในคดีฟอกเงิน ซึ่งทำให้ตนนั้นไม่เข้าใจเพราะเมื่อไม่เกี่ยวข้อง กับ คดี Forex3D แล้วจะไปมีคดีฟอกเงินได้อย่างไร

 

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้มีการชี้แจงว่าที่เกี่ยวกับคดีฟอกเงินเนื่องจาก ตนได้ทำการเคลื่อนทรัพย์ขับรถจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการนำทรัพย์ไปปกปิดซ่อนเร้น ซึ่งความจริงแล้วมันมีที่มาที่ไป ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วว่าการขับรถในครั้งนั้นเป็นรถของแฟนตน ซึ่งตอนนั้นแฟนตนยังไม่ได้โดนข้อกล่าวหาคดีใดๆ และเป็นรถที่ใช้ในชีวิตประจำวันปกติ

 

แต่ที่ไปเคลื่อนย้ายให้วันนั้นเพราะตอนนั้น แฟนของตนมีคดีที่สน.สุทธิสาร เนื่องจากมีเพื่อนสาวประเภทสองคนหนึ่งงัดห้องและนำทรัพย์สินในห้องไป โดนอ้างว่า ตนถูกนายอภิรักษ์ ผู้ต้องหาในคดีForex3D ฉ้อโกงไป ดังนั้นเมื่อแฟนสาวตนไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย Forex3D ทรัพย์สินนั้นก็ควรเป็นของตนด้วย วันนั้นตนจึงไปย้ายรถให้ และหลังจากนั้นตนได้พาแฟนสาวไปแจ้งความตามกฎหมาย

 

ต่อมาได้มีการสอบสวนสาวประเภทสองคนนี้ โดยได้มีการซักทอดไปยังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่ง ตอนนั้นเอง ตนจึงได้รู้ว่ากระบวนการเข้าไปงัดห้องครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอรู้เห็นด้วยคือเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งในศูนย์คดียาเสพติด เมื่อรู้ดังนั้นตนจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่นิติของคอนโด ทำให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ท่านนี้เข้าไปแบบปกติโดยไม่ได้แสดงตัว หรือบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ สุดท้ายจึงนำไปสู่การแจ้งคดี 157 กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะทุกอย่างเป็นหลักฐานหรือคำให้การที่สาวประเภทสองคนดังกล่าวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ดังนั้น การที่ไปเลื่อนรถยนต์ส่วนตัวให้แฟนเพื่อหนีสาวประเภทสองคนดังกล่าว กลับกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอมองว่าตนไปย้ายทรัพย์เพื่อหนีการยึดทรัพย์ของดีเอสไอ ซึ่งตอนนั้นตนไปย้ายทรัพย์เมื่อต้นกรกฎาคมปี 63 แต่กลับมาแจ้งข้อกว่าหาตนในปี 65 จึงรู้สึกว่าการแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินกับตนนั้น ไม่ถูกต้อง และวันนี้ตนพร้อมที่จะให้ขุดค้นดูเส้นทางการเงินได้หมดเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์

 

นายปราปต์ปฎล กล่าวอีกว่า หลังจากที่แฟนสาวถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำทางทนาย ฮ อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ติดต่อมาทางเพื่อนของแฟนบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือทางคดีซึ่งได้คุยกันเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 65 หลังจากนั้นได้นัดเจอกันที่ร้านแห่งหนึ่ง เพื่อพูดคุยกันโดยทางทนาย ฮ เรียกเงินหลักสิบล้านบาท

 

นำไปให้ผู้ใหญ่ช่วยทำให้สำนวนเบาลงพอตนได้ฟังแล้วรู้สึกอึ้งได้แต่เงียบทำงานมา 30 กว่าปีไม่มีปัญญาขนาดนั้น ซึ่งทางทนาย ฮ บอกว่าแฟนของตนซวยที่ไปแต่งงานกับ อภิรักษ์ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกมันมีราคาของความยุติธรรมอยู่ พอได้ฟังแล้วทำให้ทนแทบร้องไห้สงสัยว่าความยุติธรรมต้องใช้เงินหรือไม่

 

โดยในการคุยครั้งนั้นมีทั้งหมด 4 คนคือ ตน ทนาย ฮ เพื่อนของแฟนอีก 2 คน ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชท ที่ทนาย ฮ คุยเพื่อของแฟนตอนนี้รวบรวมไว้ทั้งหมดแล้ว

 

หลังจากคุยกับทนาย ฮ ได้ไม่ถึงเดือนตนถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินจึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ผ่านมานิ่งเฉยมาโดยตลอดเพราะเกรงใจผู้ใหญ่กลัวทำให้เกิดความเสียหายแต่ถึงเวลาที่ต้องออกมาปกป้องตนเอง

 

ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหารัฐมนตรีเนื่องจากทนาย ฮ อ้างว่าเป็นที่ปรึกษามาเรียกตบทรัพย์ส่วนรัฐมนตรีจะรู้เห็นหรือไม่ตนไม่รู้

 

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง ทนาย ฮ. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น โดยทนาย ฮ. บอกว่า สิ่งที่นาย ปราปต์ปฎล พูดออกมานั้น อาจจะหมายถึงตนเอง และชี้แจงว่ามีการนัดหมายจริง ที่โรงแรมดังกล่าว แต่คุยกันที่ห้องอาหารอย่างเปิดเผย ไม่ได้เป็นการแอบพูดคุย ซึ่งการเจรจา เพื่อนของแฟนนายปราปต์ปฎล เป็นคนติดต่อมาหาตนเองให้ ไปช่วยทำคดีดังกล่าว

 

ซึ่งการพูดคุยมีการคุยกันเรื่องเงินจริง แต่ไม่ได้บอกจำนวน ซึ่งเงินเป็นเงินค่าทนายความในการทำคดีดังกล่าว และค่าวิชาชีพ รวมถึงค่าดำเนินการต่างๆ และยืนยันว่าไม่มีการกล่าวอ้างถึง เลขารัฐมนตรีฯ หรือ รัฐมนตรี ว่าจะสามารถช่วยเคลียร์คดีได้ และยังยืนยันว่า ตนเองไม่ได้พูดคำว่า “ความยุติธรรมมีค่าที่ต้องจ่าย” ส่วนเรื่องแชท ทนาย ฮ ยันว่าไม่ได้ไปพิมพ์ในแชทเพื่อนของแฟนนายปราปต์ปฎลตามที่นายปราปต์ปฎลพูด

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube