fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ปีใหม่ 2566 อุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลงตามเป้า

Featured Image
รองฯ รอย เผย ปีใหม่ 2566 อุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลงตามเป้าหมาย บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักกว่า 500,000 ราย จับกุมเมาแล้วขับ 22,439 คดี

 

 

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ตร.แถลงผลการดำเนินการในการอำนวยการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ และการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน เทศกาลปีใหม่ 2566 พร้อมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ

 

ตร. พบว่า การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร จัดกำลังตำรวจกว่า 50,000 นาย ดูแลการจราจรตลอด 7 วัน มีปริมาณรถ เข้า-ออกจาก กทม. รวมจำนวน 7,199,251 คัน มีการตั้งจุดตรวจทุกวันเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนทั่วประเทศ มีจำนวนจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 2,142 จุดตรวจ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,629 จุดตรวจ พบผู้ที่ ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 518,367 ราย เป็น ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา 22,439 ราย (มากกว่าค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง คิดเป็น 21.31 %) ขับรถเร็วเกินกำหนด 199,640 ราย/ไม่สวมหมวกนิรภัย 102,864 ราย/ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 28,747 ราย

ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 317 ราย ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (366 ราย) เป็นจำนวน -49 ราย (ลดลง -13.39 %),จำนวนผู้บาดเจ็บ 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 2,437 คน ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (3,165 คน) เป็นจำนวน -728 คน (ลดลง 23.00 %ทั้ง 3 สถิติถือว่าลดลงมากกว่า 5% สำเร็จตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

สำหรับ บช. ที่ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนได้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 3 ,4, และ ภาค 2 บช. ที่ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 9 ,3 , ลำดับที่สามเท่ากัน คือ บช.น. และ ภาค 6 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ สุโขทัย พังงา สตูล และ นราธิวาส ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ( 37.50%) ดื่มแล้วขับ (25.49%) และตัดหน้ากระชั้นชิด (18.69%) ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ รถจักรยานยนต์ (82.11%) รถกระบะ (5.56%) และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล(3.24%) สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมากที่สุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย (59.19 %) และดื่มแล้วขับ (20.41%)

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube