fbpx
Home
|
อาชญากรรม

นายกสภาทนายฯ ตั้งทีมลงพื้นที่ช่วยทางกฎหมายเหตุน้ำมันดิบรั่ว

Featured Image
นายกสภาทนายฯ ตั้งทีมลงพื้นที่ หลังผู้ประกอบอาชีพประมงระยองร้องช่วยทางกฎหมายเหตุน้ำมันดิบรั่วกระทบระบบนิเวศและรายได้

 

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มกราคม 65 ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องการประมง จังหวัดระยอง ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับสภาทนายความ กรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเล บริเวณ หุ่นผูกเรือน้ำลึกหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รั่วไหลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานการประมงในอ่าวจังหวัดระยอง ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศและรายได้จากการประกอบอาชีพ

 

โดยมี ดร.วิเชียร ซุปไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ และว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการ สิ่งแวดล้อมฝ่ายคดีและปฏิบัติการ สภาทนายความ เป็นผู้รับเรื่อง

 

ว่าที่ร้อยตรีสมชาย ระบุว่า เหตุการณ์กรณี บริษัทแห่งหนึ่งทำน้ำมันดิบ รั่วไหลลงอ่าวระยอง ระหว่างขนถ่ายกลางทะเล เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565ที่ ผ่านมา มากกว่า 4 แสนลิตร ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่อง จังหวัดระยอง ได้รับผลกระทบมีน้ำมันดิบกระจายเป็นวงกว้าง ถูกพัดเข้าถ่ายฝั่ง จากข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

 

หรือ GISTDA ระบุว่า น้ำมันดิบแพร่ในทะเลกว้างกว่า 9 เท่า ของเกาะเสม็ด ทำให้ชาวบ้าน ชาวประมงได้ผลกระทบ ต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้เป็นที่ทำมาหากิน โดยจากการได้รับความเสียหายในครั้งนี้กับทางบริษัทผู้ก่อเหตุยังมีการเยียวยาชดเชยให้ในจำนวนน้อย และระบุจะชดเชยจำกัดแค่เรือประมงที่ละเบียนไว้เท่านั้น จึงไม่เป็นเป็นธรรมกับผู้ทำประมงพื้นบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบอื่น เกรงว่าจะมีการดึงเรื่องการชดเชยเยียวยาจนหมดอายุความในการเรียกร้องค่าเสียหาย

 

อย่างไรก็ตามมีประเด็นที่น่าสนใจซึ่งเป็นข้อเสนอของชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเมื่อการขนส่งขนถ่ายน้ำมันดิบทางทะเลเกิดการรั่วบ่อยครั้ง เหตุใดทางนิคมอุตสาหกรรม หรือ กรมเจ้าท่า ไม่หารือเปลี่ยนวิธีการขนส่งน้ำมันเป็นทางบกแทน

 

ด้านนายวิเชียร นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า กรณีนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก แบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบและต้องการเยียวยาเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มประมงพื้นบ้าน จำนวนเรียกว่า 150 ลำ ,กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ที่ขาดทุนจากการค้าขายสัตว์น้ำที่ซื้อต่อจากเรือประมงและขายไม่ออก จำนวน กว่า 50 คน และกลุ่มลูกจ้างเรือประมง จํานวนกว่า 50 คน จากนี้ทางสภาทนายจะมีการตั้งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบ รวมไปถึงผลกระทบด้านสุขภาพอีกด้วย ว่าการรั่วน้ำมันดิบส่งผลระยะสั้น ระยะยาวต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างไรหรือไม่ เบื้องต้นสภาทนายความก็ได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนในทางกฎหมายไว้

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube