ปราบเภสัชกรเถื่อน ขายยาเขียวเหลือง(ทรามาดอล) ให้กลุ่มวัยรุ่นใช้ผสม 4 คูณ 100 เบื้องต้นดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย ยึดของกลาง 22 รายการ
วันนี้ (23 ธ.ค. 65) พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แถลงผลปราบปรามเภสัชกรเถื่อน ขายยาทรามาดอลสีเขียวเหลือง ให้กลุ่มวัยรุ่นใช้ผสม 4 คูณ 100 โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นร้านขายยาที่มียอดการสั่งซื้อยาแก้ปวดทรามาดอล ยาแก้แพ้ และยาแก้ไอสูงผิดปกติ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 จุด ดำเนินคดีกีบผู้ต้องหา 4 คน พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาทรามาดอลและกลุ่มยาแก้ปวด 6,170 เม็ด ยาแก้ไอและยาแก้แพ้ 3,835 ขวด รวม 22 รายการ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท
เบื้องต้นจากการตรวจสอบทั้ง 4 ร้านค้า ไม่มีร้านใดมีเภสัชกรอยู่ แต่ให้บุคคลทั่วไปขายยาแทน มีเพียงร้านแรกที่เจ้าของร้านมีพี่สาวเป็นเภสัชกรและเรียนรู้เรื่องยามาจากพี่สาวอีกต่อ ส่วนร้านที่เหลือเป็นลูกจ้าง บางคนจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 บางคนแม้จะจบปริญญาตรีแต่ก็ไม่ได้มีความรู้หรือมีประสบการณ์เรื่องยามาเลย แต่เพิ่งมาทำงานที่ร้านยาได้แค่ 2 วันก็ถูกจับกุม เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาความผิดฐานประกอบบิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่มีใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม และ ขายยาอันตรายให้ระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ยา
ด้านนายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รอง เลขาฯ อย. กล่าวว่ายาทรามาดอลเป็นยาที่ต้องจำกัดการซื้อ 1เดือน ร้านขายยาสามารถซื้อยาดังกล่าวมาจำหน่ายได้เพียง 1,000 เม็ดต่อเดือน ทำให้มีพ่อค้าหัวใสใช้ชื่อเจ้าขายคนเดียว แต่เปิดร้านหลายสาขา เพื่อที่จะสามารถซื้อยาได้ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เพียงพอต่อการจำหน่ายให้กับเยาวชน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ อย. ร่วมมือกับ ปคบ. ปราบปรามมาก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ได้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับใบอนุญาตร้านยาแผนปัจจุบันไปแล้ว 20 ร้าน และส่งข้อมูลไปยังสภาเภสัชกรรม เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพของเภสัชกร 26 ราย และส่งเรื่องดำเนินคดีกับเภสัชกรเถื่อนที่ไม่ขึ้นทะเบียนอีก 23 ราย พร้อมเตือนว่าร้านยาใดที่ไม่มีเภสัชกรถือมีความผิด บังคับใช้กฎหมายได้ทันที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
