นครบาลรวบแก๊งค้ายารายใหญ่ยึดยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ตรวจประวัติพบเคยติดคุกคดียาเสพติด เร่งล่าผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมนายธานินทร์ อายุ 41 ปี, นายธวัชชัย อายุ 25 ปี และนายทองทับ อายุ 51 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,098,000 เม็ด, ปืน 9 มม. 1 กระบอก, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, รถยนต์ 4 คัน และสมุดบัญชีอีก 2 เล่ม
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า ตำรวจขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดย่านอ่อนนุช ก่อนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนอีก 1 รายยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเพชรบูรี นำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนลำเลียงเข้าสู่กรุงเทพฯและพื้นที่ชั้นใน โดยตรวจสอบประวัติพบว่า 2 ใน 4 คนเคยติดคุกในคดียาเสพติด
โดยตำรวจติดตามสืบสวนผู้ต้องหากลุ่มนี้มานานประมาณ 2 ปี กระทั่งวันที่ 31 ม.ค.64 ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ในพื้นที่ อ.พระพุทธบาล และ อ.เมือง จ.สระบุรี ก่อนขยายผลตรวจค้นบ้านใน ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วหลายครั้ง และยังเหลือผู้ต้องหาหลบหนีอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผบช.น.ยืนยัน ตำรวจทำตามหน้าที่ ปมสลายชุมนุมสถานทูตเมียนมา – รวบผู้ชุมนุม 3 คน พบผิดชัดเจน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีการชุมนุมของชาวเมียนมาและการ์ดวีโวลันเทียร์ หน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทร หลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนนำกำลังขอคืนพื้นที่ จนมีความชุลมุนเกิดขึ้นว่า สำหรับตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบให้สถานทูต ซึ่งมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งวานนี้ตำรวจได้ประกาศทั้งภาษาไทยและเมียนมา ให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวอีกว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ 3 คน โดย 2 คน เป็นผู้ที่มีความผิดชัดเจนถึงการต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และอีก 1 คน คือผู้ควบคุมรถขยายเสียงที่มีการยุยงปลุกปั่นผู้ชุมนุม ส่วนฝั่งของตำรวจมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวม 15 คน แบ่งเป็นเจ็บเล็กน้อย 13 คน และบาดเจ็บแก้วหูฉีก 2 คน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ผบช.น. ยัน หาก”ดีเจมะตูม”หายป่วยโควิด ต้องเชิญตัวให้ปากคำ – ทำหนังสือเชิญสำนักอนามัย กทม. ให้รายละเอียดแล้ว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจเชิญเจ้าหน้าอนามัยสำนักงานเขตสาทร มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร บนโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร ที่นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูม เข้าไปใช้บริการก่อนพบว่าติดเชื้อโควิด-19
โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทรให้ข้อมูลว่า การให้บริการของร้านอาหารบนโรงแรมดังกล่าว ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด แต่ในส่วนของการเปิดห้องสูทจำนวน 3 ห้องเข้าไปใช้บริการ และทำกิจกรรมในห้องดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่อนามัยสำนักงานเขต ยังไม่ขอให้ความเห็น และยังไม่ให้การเกี่ยวกับพฤติการณ์ของกลุ่มดีเจมะตูม โดยระบุว่า ต้องขอปรึกษากับผู้บังคับบัญชาก่อน ตำรวจจึงทำหนังสือไปถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อขอความเห็นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ผบช.น. ยืนยัน หากตำรวจตรวจสอบพบความผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ ยังต้องรอความเห็นจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อน ส่วนดีเจมะตูม หลังรักษาตัวจนหายจากอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว พนักงานสอบสวนจะเชิญตัวมาให้ปากคำอีกครั้งหนึ่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
