Home
|
อาชญากรรม

“อัจฉริยะ”พาเหยื่อร้องเอาผิดแก๊งรับจ้างรับจำนำรถ

Featured Image
“อัจฉริยะ” พาเหยื่อถูกหลอกรับจำนำรถยนต์ป้ายแดง ร้อง ผบก.ปปป. เอาผิดตร. ขบวนการรับจ้างรับจำนำรถยนต์

 

 

 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพา นายณัฐกร อ่อนศิริ กับพวก เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อดำเนินคดีเสธทหารกับพวก พร้อม ศปจร.ตร. ชุดปฏิบัติการที่3, พนักงานสอบสวน.สน.บางชัน และรองผกก.สอบสวนสน.ทองหล่อ ร่วมกันทำเป็นขบวนการนำรถป้ายแดงให้เครื่อข่ายมาจำนำ แล้วมาเอาคืนโดยไม่มีอำนาจสอบสวน และให้ทหารขโมยรถกลับคืน

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่าวันนี้ตนพาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับรองผกก.สอบสวนสน. ทองหล่อและรองสารวัตรสอบสวนสน. บางชันรวมทั้งร้องศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ ศปจร.ตร.ซึ่งร่วมกันทำเป็นขบวนการนำรถป้ายแดงมาจำนำ และเมื่อถึงเวลาจึงร่วมมือกัน โดยให้ศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์รับจ้างจับ อ้างว่าเป็นรถยนต์ที่สวมป้ายทะเบียนคนอื่น และทำการยึดรถไปที่ สน.บางชัน จากนั้นให้ทำการคืนรถโดยไม่ต้องจ่ายเงินที่มาจำนำไว้โดยพฤติการณ์ คนร้ายจะร่วมกันเป็นขบวนการ ทำทีมาจำนำรถยนต์ไว้ จากนั้นไปแจ้งความว่า นายณัฐกร ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้รับจำนำรถยนต์ ยักยอก เพราะต้องการเอาเงิน 1.4 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง ถูกหลอกลวงให้มีการซื้อรถยนต์ดาวน์ไปผ่อนเอง แต่สุดท้ายกลับนำรถยนต์ของผู้เสียหายไปขายในตลาดมืด ซึ่งเป็นขบวนการเดียวกัน

 

 

ทั้งนี้ มีหลักฐานการโอนเงินที่จำนำรถ ข้อความทางแชตไลน์ ซึ่งมียอดเงินตรงกัน รวมทั้งคลิปวิดีโอภาพและเสียงชัดเจน ซึ่งยืนยันว่ารองผกก.สอบสวนสน.ทองหล่อ มีการลงมาทำคดีเอง ในคดียักยอก ซึ่งไม่ใช่อำนาจการสอบสวนของผกก.แต่อย่างใด จึงมาดำเนินคดีกับรองผกก.สอสอบสวนสน.ทองหล่อ ว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กลั่นแกล้งผู้อื่น มีโทษทางอาญาสำหรับกรณี รองสารวัตรสอบสวน สน. บางชัน มีการกระทำในลักษณะเดียวกัน โดยวันเกิดเหตุคนร้ายคนเดิมได้นำรถมาจำนำเช่นเดียวกัน เมื่อจำนำเสร็จและได้รับเงิน จึงนัดวันมาไถ่คืนที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ แต่ปรากฏว่ามีการร่วมกับศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ ซึ่งมีรองสารวัตรสืบสวนสน.ทองหล่อรู้เห็นเป็นใจด้วย ในการยึดรถของผู้เสียหาย และนำไปส่งที่สน.บางชัน และบังคับให้ผู้เสียหายคืนรถให้กับผู้ครอบครองที่ไม่ใช่เจ้าของไฟแนนซ์ รวมทั้งไม่มีการดำเนินคดี กับคนร้าย แม้ว่าคนร้ายจะถูกศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ดำเนินคดี ในข้อหาเอาป้ายทะเบียนของบุคคลอื่นมาสวม ซึ่งทุกอย่างจบลงโดยง่ายดาย

 

 

ด้านนายณัฐกร กล่าวว่า วันที่คนร้ายมาจำนำ มีการส่งรูปรถยนต์มา พร้อมระบุว่าอยากจะนำรถมาวางจำนำ เพื่อค้ำประกัน ในราคา 2 แสนบาท โดยตอนนั้นตนก็ไม่ได้ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ดูเพียงเอกสารรถยนต์และทำการรับไว้ จากนั้นเมื่อติดต่อทวงถามก็บอกว่าจะขอเอารถคืน แต่ผลัดไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงนัดไถ่รถยนต์คืน แต่เมื่อตนไปถึงจุดนัดไถ่รถยนต์ก็มีตำรวจชุดศปจร.มาทำการยึดรถไป และบอกว่าเป็นรถสวมป้ายทะเบียนนอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่าภายในเครือข่ายดังกล่าว มีรถยนต์ป้ายแดงอีกประมาณ 10 คัน โดยเมื่อดาวน์มาในเดือนแรกก็จะใช้วิธีข้างต้นร่วมกันเป็นขบวนการในการนำรถกลับคืน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube