บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรอาจจะมาในรูปแบบของฝนที่ตกเวลาเลิกงาน จึงเกิดคำถามว่าทำไมมม (ลากเสียง) ตั้งนานไม่ตก ดันมาตกเวลาเลิกงาน กลับบ้านก็ไม่ได้ กลับได้รถก็ติด รถติดก็ถึงบ้านช้า ถึงบ้านช้าก็นอนน้อย นอนน้อยก็ไม่มีพลังงาน ไม่มีพลังงานก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำงานได้ไม่เต็มที่เสี่ยงโดนไล่ออก (โหห ขนาดนั้นเลย ขำๆนะทุกคน) แต่ฝนตกตอนเลิกงานที่มันกระทบกับชีวิตเราจริงๆนะ วันนี้เรามาดูสาเหตุกันว่าทำไมฝนชอบตกเวลาเราเลิกงาน
ทำไมฝนถึงตก
มาย้อนวิชาวิทยาศาสตร์เบื้องต้นกันก่อนสักหน่อยว่าทำไมฝนถึงตก
น้ำโดนความร้อน-ระเหยเป็นไอน้ำขึ้นไปบนฟ้า-กลายเป็นเมฆ-ควบแน่น-กลายเป็นฝน
แล้วก็จะวนแบบนี้ไปเรื่อยๆเป็นวัฏจักรการเกิดฝน ทีนี้กลับมาที่เรื่องหลักของเรากันว่าทำไม ฝนถึงชอบตกตอนเลิกงาน สรุปง่ายๆก่อนคือ ช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายมีความร้อนสูงทำให้ไอน้ำระเหยไปสะสมเป็นจำนวนมากแล้วพอตอนเย็นก็เลยตกเป็นฝนลงมา
สำหรับใครที่อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมมาตรงนี้เลย
ข้อมูลมาจากการอ่านหลายๆแหล่งประกอบกัน ทำไมฝนถึงชอบตกตอนเย็น ในฤดูฝนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมาก เนื่องจากอากาศที่ร้อนไม่ว่าจะจากธรรมชาติแรง การใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แอร์ ทั้งหมดล้วนมีความร้อน ยิ่งในกรุงเทพฯที่มีตึกหนาแน่นก็ส่งความร้อนขึ้นไปเป็นจำนวนมาก เมื่อความร้อนสะสมมากๆจนถึงช่วงเย็น พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ความชื้นในรูปแบบไอร้อนค่อยๆถูกปล่อยออกมา เมื่อปะทะกับตัวแปรเช่น อากาศที่เย็น ลมประจำฤดูฝน ลมมรสุม ทำให้เกิดการยกตัวขึ้นด้านบนกลายเป็นเมฆฝน ฝนจึงตกลงมา แน่นอนว่าอาจจะมีปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติมเช่น พายุเข้า
เกร็ดความรู้เสริม ฝนที่ชอบตกตอนเย็นมีชื่อเรียกอีกชื่อคือ ฝนราชการ ชื่อนี้มาจากฝนที่มักตกทุกวันในเวลาเดียวกัน ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่ ราชการ เลิกงาน เลยได้ชื่อว่าฝนราชการ
ฝนตกตอนเลิกงานหรือฝนราชการ เป็นสิ่งที่ทำให้เราเซงได้ไม่น้อยเลย จากที่เดินทางกลับบ้านไม่ถึงชั่วโมงก็กลายเป็นหลายชั่วโมง บางครั้งทำให้ตัวเปียกรู้สึกไม่สบายตัวอีก ยังไงก็พกร่ม พกชุดกันฝนไว้ อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันไม่ให้เราตัวเปียกได้ เพราะอย่างไรเราก็คงห้ามให้ฝนตกไม่ได้ ว่าแต่ ฝนตก รถติดแบบนี้เบื่อกันไหม ถ้าเหงา ถ้าเบื่อมาอ่านอะไรสนุกๆฆ่าเวลาได้ที่ https://www.innnews.co.th/lifestyle/
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
