Home
|
ไลฟ์สไตล์

เทรนด์ใหม่ ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ พนักงานแฮปปี้ บริษัทเติบโต

Featured Image

         โควิด-19 ทำให้โลกนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล 1 สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงคือการทำงาน แน่นอนว่าสิ่งที่เราคุ้นเคยกันคือการ WFH หรือทำงานจากที่บ้าน แต่อีกสิ่งที่หลายบริษัทเริ่มทดลองใช้คือการทำงานแค่ 4 วัน ต่อสัปดาห์ ผลที่ออกมานั้นน่าสนใจทีเดียว เพราะบริษัทกลับเติบโตขึ้น มียอดขายดีขึ้น พนักงานก็แฮปปี้ขึ้นเช่นกัน 

          ก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองแนวนี้มาแล้ว ขอยกตัวอย่างประเทศไอซ์แลนด์ ที่หน่วยงานปกครองของเมืองได้ร่วมกับนักวิจัยและแรงงานในประเทศ ให้ทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็น 35-36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่รายได้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 

         ผลออกมาน่าสนใจเลยทีเดียว พวกเขาพบว่า พนักงานมี Productivity มากขึ้นกว่าเดิม ความเครียดจากงานหรือภาวะหมดไฟนั้นต่ำลงมากๆ จากปกติ พนักงานได้ใช้ชีวิตและไปเรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการและหลายทักษะก็ย้อนกลับมาทำให้งานที่บริษัทดีขึ้น 

          ในประเทศออสเตรีย บริษัทอย่าง Versa ก็ทดลองให้พนักงานหยุดทุกวันพุธ ทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์เช่นกัน ผลออกมาว่า บริษัททำกำไรเพิ่มขึ้นถึง 30-40% เลยทีเดียว หนึ่งในพนักงานได้ให้ความเห็นไว้ว่า “พอถึงวันพฤหัส ฉันจะรู้สึกเหมือนวันจันทร์อีกครั้ง พวกเรารู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำงาน” 

          แน่นอนว่าการเปลี่ยนมาทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นั้นทั้งบริษัทและพนักงานต้องใช้การวางแผนมากเลยทีเดียว และคงใช้ไม่ได้กับทุกอาชีพ แต่หลายคนก็บอกว่า คนที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงเพราะพวกเขาแค่กลัวเท่านั้นเอง 

          จากที่ดูหลายๆข่าว หลายๆบทสัมภาษณ์ หรือแม้แต่พนักงานลองทำเอง เช่น พนักงานประเทศญี่ปุ่นที่เก็บวันลาไว้ลาทุกวันพุธ พวกเขาทั้งหลายกล่าวตรงกันว่า การทำงานเพียง 4 วันนั้นช่วยให้พวกเขารู้สึกอยากทำงานมากขึ้น แล้วตัวบริษัทที่ได้ทดลองก็เห็นตรงกันว่ามันได้ผลที่ดีเลยทีเดียว 

          อนาคตเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ที่ว่าหลังจากช่วงโควิด อาจจะมีการลาออกครั้งใหญ่ เนื่องจากพนักงานมองหาบริษัทที่ยืดหยุ่นเรื่องการใช้ชีวิตมากขึ้น จะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป เพื่อนๆช่วยบอก ไอ.เอ็น.เอ็น. ไว้หน่อยว่าคิดอย่างไรกันบ้าง 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

ขอขอบคุณข้อมูล 

abc.net.

bbc

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube