fbpx
Home
|
ไลฟ์สไตล์

How to เลิกกินเค็ม เพื่อสุขภาพที่ดี

Featured Image

          คนไทยส่วนมากติดกินรสเค็มหรือติดโซเดียมกันหนักมาก การกินอาหารที่มีรสเค็มจัด หรืออาหารที่ปรุงด้วยเกลือในปริมาณมากนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมายหลายอย่างเลยทีเดียว เช่น โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ

          ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบกินอาหารรสเค็มล่ะก็ วันนี้เรามีวิธีการเลิกกินเค็มมาฝากทุกคนกัน เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้ดียิ่งขึ้น

1.อ่านฉลากโภชนาการ

          เวลาเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า เราควรอ่านฉลากโภชนาการเพื่อตรวจสอบดูก่อนว่ามีปริมาณของเกลือที่สูงเกินไปหรือไม่ ซึ่งปริมาณที่ร่างกายควรรับคือไม่เกิน 1,200 – 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4-5 ช้อนชา

2.หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารแปรรูป

          เพราะอาหารที่ผ่านการแปรรูป อย่างอาหารกระป๋อง หรืออาหารแช่แข็ง มักจะใส่เกลือเพิ่มลงไป

 

3.ควรหลีกเลี่ยงร้านอาหารประเภทจานด่วน

How to เลิกกินเค็ม เพื่อสุขภาพที่ดี_ไส้ใน3

 

          เพราะอาหารจานด่วนเกือบทุกอย่างมักมีปริมาณโซเดียมสูง เช่น พิซซ่า สปาเกตตี พาสต้า เบอร์เกอร์ แซนด์วิช

4.ลดเค็มจากการปรุงอาหาร

          ลดการเติมเกลือ น้ำปลา หรือซอสปรุงรสที่ให้รสเค็ม เหลือเพียงครึ่งเดียว จากนั้นเมื่อคุ้นกับรสชาติใหม่ก็จะเริ่มลดความเค็มลงเรื่อยๆ จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณให้น้อยลงจนถึงไม่ต้องปรุงเลย

5.ควรหลีกเลี่ยงน้ำจิ้ม

How to เลิกกินเค็ม เพื่อสุขภาพที่ดี_ไส้ใน5

 

          นอกจากในอาหารจะมีโซเดียมอยู่แล้ว หากเราจิ้มน้ำจิ้มเข้าไปจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเข้าไปมากกว่าเดิม

6.เลิกนิสัยกินจุบจิบระหว่างวัน

          ขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของเกลือปริมาณมาก หากเลิกนิสัยกินจุบจิบระหว่างวันได้ นอกจากจะลดเกลือได้แล้ว ยังเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

          ดังนั้นการเลิกกินเค็มทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น ควรกินอย่างพอดีๆ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป กินในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับร่างกายของเรา จะได้ไม่ก่อให้เกิดผลเสียตามมา สำหรับใครที่กำลังอยากเลิกกินเค็มลองนำวิธีของเราไปใช้กันดูได้เลย สามารถติดตามบทความดีๆแบบนี้ต่อได้ที่ iNN Lifestyle 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube